รัฐมนตรีเกษตรฯ ชงออกประกาศกฎกระทรวงฯ ยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมเลี้ยงหอยทะเล & ปลากระชังทั่วประเทศ ส่วนการเยียวยาเกษตรกรล็อตแรก เตรียมรับเงิน 15 พ.ค.นี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากนโยบายของท่าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มอบหมายให้กรมประมงหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่มีการเลี้ยงหอยทะเลและการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดยนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีการประชุมหารือร่วมกับกรมประมง และผู้แทนเกษตรกรกลุ่มต่างๆ อาทิ ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยแครงบางตะบูน ฯลฯ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งผลที่ประชุมมีมติเสนอให้ออกกฎกระทรวงฯ เพื่อให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกชนิด ทั้งการเพาะเลี้ยงหอยทะเล การเลี้ยงปลาในกระชัง และสัตว์น้ำอื่นๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งมีอยู่ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ โดยให้สิทธิ์ 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ ใน 1 รอบใบอนุญาตเพาะเลี้ยง (ปี 2563–2565) โดยจังหวัดไหนที่ได้ชำระค่าธรรมเนียมไปแล้ว จะไปยกเว้นให้ในรอบใบอนุญาตเพาะเลี้ยงถัดไป และในระหว่างการเสนอแก้กฎกระทรวงฯ ให้ดำเนินการขอใบอนุญาตฯ ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อรักษาสิทธิของเกษตรกร ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ กรมประมงจะเร่งดำเนินการเสนอร่างกฎกระทรวงฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อเสนอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และส่งร่างให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาและประกาศใช้ต่อไป นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในระยะยาวของการเพาะเลี้ยงหอยแครงในเขตท้องที่เพชรบุรี จะมีการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยเพื่อมอบหมายให้คณะอนุกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไปศึกษาวิจัยในการแก้ไขปัญหากรณีที่แหล่งน้ำเสื่อมโทรมและเร่งฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรประมงเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหา และนำเสนอแนวทางแก้ไขในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2563 สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ของกรมประมง ในระยะที่ 1 มีเกษตรกรจำนวนทั้งสิ้น 530,710 ราย ที่ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา กบ และสัตว์น้ำชนิดอื่น (ทบ.1) เกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณะของแผ่นดิน เช่น เลี้ยงปลาในกระชัง เลี้ยงหอยในทะเล เกษตรกรผู้จดแจ้งการเลี้ยงกุ้งทะเล และ เกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนชาวประมง (ทบ.3) ได้แก่ เจ้าของเรือประมงพื้นบ้าน ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมง ทะเบียนชาวประมง (ภาคสมัครใจ) ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบให้กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้วเพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในกรณี เกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส.แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากตามเดิมได้ โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารใดก็ได้ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com สำหรับการช่วยเหลือในระยะที่ 2 : จะเป็นการช่วยเหลือในส่วนของผู้ทำการประมงพื้นบ้านและแรงงานไทยในเรือประมงพื้นบ้าน ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่อยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนกรมประมงแต่ทะเบียนหมดอายุ ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่อยู่ระหว่างการยื่นต่ออายุและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ รวมถึงเกษตรกรรายใหม่ที่จะขึ้นทะเบียนภายวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ด้วย จึงฝากเน้นย้ำให้ผู้ที่มีความประสงค์จะขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมประมง โดยเฉพาะผู้ทำการประมงพื้นบ้านและแรงงานไทยในเรือประมงพื้นบ้าน รีบตรวจสอบสิทธิ์ ในเว็บไซต์ https://smartfarmer.fisheries.go.th/fisherman/index.php และติดต่อขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประมงจังหวัด หรือ สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 0 2104 9444 (จำนวน 40 คู่สาย) ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Line : @dofhelpdesk "กรมประมงจะเร่งทำการขึ้นทะเบียนชาวประมงให้ครบถ้วนไม่ให้มีการตกหล่นและจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพื่อร่วมกันผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน"อธิบดีกรมประมง กล่าว