นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Watana Muangsook ระบุว่า ... ความจริงที่ต้องยอมรับคือเศรษฐกิจหลังโควิด-19 จะหนักหนาสาหัส แต่รัฐบาลจะฉวยเอาความสำเร็จของการคุมโรค ที่เกิดจากความร่วมมือของคนไทยมากลบความล้มเหลวทางเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายคาดว่าจีดีพีจะติดลบถึงร้อยละ 10 ถ้านึกไม่ออกว่าจะเลวร้ายขนาดไหนก็ลองนึกภาพก่อนเกิดโควิดที่จีดีพีโตประมาณ 3% คนไทยยังรมเตาถ่านฆ่าตัวตายไปหลายคน หากจีดีพีติดลบร้อยละ 10 อะไรจะเกิดขึ้น ผู้นำที่รับราชการมาทั้งชีวิตไม่มีทางจินตนาการออกว่า การคลายล็อกด้วยเงื่อนไขที่เกินกว่าความจำเป็นต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด เช่น การห้ามร้านตัดผมให้บริการอื่นนอกจากตัด สระ ไดร์ รวมทั้งข้อห้ามที่ไม่สมเหตุสมผลมากมายในร้านอาหาร เช่น การเปิดให้นั่งรับประทานอาหารหากเว้นระยะห่าง 1-1.5 เมตร ต้องมีฉากกั้น รวมถึงเคอร์ฟิวที่นอกจากจะไม่จำเป็นแล้วยังทำให้ร้านเล็กๆ ดำเนินการไม่ได้เพราะไม่คุ้มทุน เท่ากับรัฐเองเป็นผู้สร้างอุปสรรคต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการ SME คือกลไกสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องเผชิญการขาดทุนเพราะประชาชนขาดกำลังซื้ออันเนื่องจากผลงานของรัฐบาล คสช. ต่อมาก็ต้องเจ็บตัวรอบสองเพราะคำสั่งล็อกดาวน์ประเทศและเคอร์ฟิว วันนี้กำลังจะเผชิญวิกฤตรอบสามเพราะคำสั่งและมาตรการที่ขาดทั้งสติและปัญญาโดยไม่เคยได้รับการเยียวยาใดๆ นอกจากเงินกู้ที่มีเงื่อนไข รัฐบาลคงลืมไปว่าหากพวกเขาไม่รอดก็จะมีคนอีกมากมายที่ไม่รอดซึ่งรวมถึงรัฐบาลก็จะไม่รอดด้วย ประเทศไม่ใช่ที่ฝึกงานของทหารเกษียณ รัฐบาลควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่ใช่มาจาก ส.ว. และรัฐธรรมนูญที่เขียนกันเองแล้วโกงประชามติ วัฒนา เมืองสุข 9 พฤษภาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลและภาพ เพจเฟซบุ๊ก - Watana Muangsook