นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน ได้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวดังนี้ 1.การชะลอการอนุมัตินำเข้าแรงงานต่างด้าว ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 2.การผ่อนปรนให้แรงงานต่างด้าวสามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ต่อไปจนถึง 30 พฤศจิกายน 2563 3.ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยร่วมมือกับสภากาชาดไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกันนำร่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 การดำเนินการ ประกอบด้วย จัดทำเอกสารเผยแพร่เป็นภาษาของแรงงานต่างด้าว เพื่อให้สามารถสื่อสารเข้าใจง่าย รวมทั้งการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาลดผลกระทบ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ถุงยังชีพ เป็นต้น รวมทั้งกระบวนการการเข้ารับการตรวจรักษาพยาบาลกรณีมีประวัติการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ตลอดจนขั้นตอนการคัดกรอง การกักตัวเอง 14 วัน ตามกระบวนการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เสริมสร้างสร้างการรับรู้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 4.สำรวจตรวจสอบ (Check List) แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการให้สามารถทำงานได้โดยไม่ให้มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด5.แจ้งมาตรการให้นายจ้างในสถานประกอบการมีการคัดกรองลูกจ้างแรงงานต่างด้าวและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 6.ตรวจสอบคัดกรองและเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าว ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PIPO) 7.การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการ โดยดำเนินการขอความร่วมมือสถานประกอบการทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ลูกจ้าง ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับโรคโควิด - 19 และการปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 8.การให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 9.การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน 10.ลดหย่อนอัตราเงินสมทบและขยายกำหนดเวลายื่นแบบอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน11.รวบรวมรายชื่อสถานประกอบการที่มีการจ้างแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและจำนวนแรงงานต่างด้าว ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และแจ้งข้อมูลให้ ศบค.ทราบ เพื่อใช้ในการวางแผนตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันเชิงรุก