เม่าอวันที่ 8 พ.ค.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. และพ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ สว.กก.6 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมนายธีระพงศ์ ธรรมรัตนพงศ์ อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 180/2559 ลงวันที่ 29 ก.ค.59 และ น.ส.แพรดาว แก้วสว่าง อายุ 24 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 220/2559 ลงวันที่ 30 ส.ค.59 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้างในเวลากลางคืน ได้ที่ หมู่ 8 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค.59 ทางบริษัทผู้เสียหายได้ตรวจสอบการเงินจากการขายน้ำมันของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเซีย (ทุ่งสง-หาดใหญ่) ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-22 ก.ค.59 พบว่าเงินจากการขายน้ำมันได้ขาดหายไปร่วม 20 ล้านบาท จึงคาดว่าน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น จึงได้นำเรื่องเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งสง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการทั้งหมด 18 คน โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้วจำนวน 16 คน แต่ยังคงเหลือผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่อีก 2 คน คือ นายธีระพงศ์ฯ และน.ส.แพรดาวฯ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการออกสืบสวนทราบว่านายธีระพงศ์ฯ และน.ส.แพรดาวฯ ทั้งคู่ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าย่าน หมู่ 8 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ไปทำการตรวจสอบที่บ้านเช่าพบว่าทั้งคู่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายธีระพงศ์ฯ และน.ส.แพรดาวฯ โดยนายธีระพงศ์ฯ ให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เนื่องจากตนได้ทำงานที่ปั๊มดังกล่าวในเวลากลางวัน แต่รับว่าเงินจำนวน 20 ล้าน ของผู้เสียหายที่ร่วมกันลักทรัพย์นั้นตนได้มาเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนน.ส.แพรดาวฯ ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากขณะเกิดเหตุตนเองไม่ได้ทำงานที่ปั๊มดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบและควบคุมตัวส่ง สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีต่อไป