"มท." สั่งห้าม!ใช้เครื่องกีดขวางใหญ่ปิดรอยต่อข้ามจังหวัด หลังเจอร้องเรียนกระทบทำมาหากิน ทำขัดแย้งบานปลาย กำชับเข้มยึดกม. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2563 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ลงวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาระบุว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้รับแจ้งและมีการร้องเรียนว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการเดินทางสัญจรและการประกอบอาชีพจากการที่จังหวัดออกคำสั่งปิดเส้นทางเข้าออกในพื้นที่ของจังหวัด ใช้วัสดุขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางคมนาคมสัญจรเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด และเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อมวลชนว่า ส่วนราชการไม่มีการบูรณาการการปฏิบัติและอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) จึงให้จังหวัดถือปฏิบัติและดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนี้ 1.ห้ามใช้วัสดุหรือเครื่องกีดขวางขนาดใหญ่ อาทิ ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ และการทำคันดินเพื่อปิดเส้นทางคมนาคมสัญจรเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด 2.ให้จัดให้มีจุดตรวจคัดกรองในบริเวณพื้นที่ที่มีคำสั่งปิดเส้นทางเข้าออกของจังหวัดให้ดำเนินการให้สอดรับกับข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 1 พ.ค. 2563 ข้อ 5 และแนวทางตามโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0230/ ว2564 ลงวันที่ 2 พ.ค. 2563 โดยอาจพิจารณามอบหมายให้ข้าราชการของอำเภอ ข้าราชการ หรือพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว