วันที่ 6 พ.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ขอเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว “จับ ส.ต.ท. แตกแถว ขนยาบ้ากว่า 8แสนเม็ด” ว่าได้รับรายงานจาก สภ.บ้านดู่ จว.เชียงราย ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว ส.ต.ท.ธวัชชัย คำปวง ผบ.หมู่ กก.ตชด.32 ไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 63 เวลา 05.00 น. บริเวณสี่แยกไฟแดง (ถ.สายบายพาส) บ้านป่ากุ๊ก ต.บ้านตู่ อ.เมือง จว.เชียงราย และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ซึ่งมียาเสพติดให้โทษประเภทที่1 (ยาบ้า) จำนวน 6กระสอบ ประมาณ 780,000 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 3 ข้อหา 1. ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และ 3.พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่ง ส.ต.ท. รายดังกล่าวให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในส่วนของ ส.ต.อ.นันทวัตน์ สมบุตร ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ตชด.43 อยู่ระหว่างติดตาม จับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมารับโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน ขยายผลเพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว ก็จะดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่าวันนี้ (6 พ.ค. 63) หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 รายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมมีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง และจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับตำรวจที่ทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ซึ่งการปราบปรามยาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ได้กำชับและมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บังคับการ ผู้กำกับ หน.หน้าหน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำในลักษณะนี้ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอดไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี