ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศน์ทางทะเล โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า...ผมชอบบางแสนในยุคนี้ ผมคิดว่าท้องถิ่นมีการจัดการที่ดีและกระตือรือร้น แต่บางแสนสวยไม่ได้หากเราไม่ร่วมใจกัน วันนี้จึงอยากเล่าเรื่อง #ทะเลไม่ใหญ่พอเป็นถังขยะให้คนบนแผ่นดิน ภาพขยะบนหาดที่เห็นเป็นของนายกตุ้ย ณรงค์ชัย คุณปลื้ม เพิ่งลงเฟซวันนี้ พร้อมบอกว่าอยากให้คนช่วยกันลดขยะ ภาพมุมสูงเป็นของนักวิชาการ เห็นหาดปราศจากผู้คนตามนโยบายปิดหาด ซึ่งก็ยังปิดอยู่ในวันนี้ เพียงเปิดให้คนเดินตามฟุตบาทได้ มีข่าวว่าคนเข้ามา มีขยะทิ้งอยู่ตามฟุตบาท ฯลฯ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องไม่ดี แต่คงไม่เกี่ยวกับขยะมากมายที่อยู่บนหาด เพราะคนลงไปที่หาดไม่ได้ ขยะบนหาดจึงมาจากทะเล แต่การท่องเที่ยวปิดหมด จะบอกว่าขยะมาจากนักท่องเที่ยวในทะเลก็คงไม่ใช่ ขยะทั้งหมดที่เห็นจึงมาจากแม่น้ำลำคลอง มาจากบ้านเรือนพวกเราบนบก ไม่ใช่แค่บางแสน แต่รวมถึงลุ่มน้ำบางปะกงและเจ้าพระยา คำกล่าวว่า 80% ของขยะทะเลมาจากแผ่นดิน ยืนยันได้ด้วย 2 ภาพนี้ และมีขยะจากพวกเราเพิ่มมหาศาลในช่วงสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะจากการส่งอาหาร/สินค้า เราจะเห็นว่ามีพลาสติกใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้นมากมาย สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยรายงานว่า การเดลิเวอรี่ทำให้ขยะพลาสติกเพิ่ม 15% จากปรกติ ปัจจุบันเราทิ้งขยะพลาสติกถึง 6,300 ตันต่อวัน ยังไม่รวมหน้ากากอนามัยวันละ 1.5-2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งบางส่วนยังจัดการไม่ถูกต้อง ปัญหาสำคัญคือ new normal จะทำอย่างไร เมื่อการส่งอาหาร/ของกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา หากจัดการไม่ดี ไม่ว่านายกตุ้ยจะพยายามแค่ไหน หาดบางแสนก็ยังมีขยะ และจะมีเพิ่มมากขึ้น ยังรวมถึงหาดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เพราะท้องทะเลไม่ใหญ่พอเป็นถังขยะให้คนบนแผ่นดิน แต่การจัดการเหล่านั้นยากเย็นกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป เราป้องกันโรคด้วยการใช้แล้วทิ้ง แต่ในอีกมุมหนึ่ง เรากำลังทำร้ายทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ และทั้งหมดนั้นก็ย้อนมาทำร้ายสัตว์หายากที่กำลังรื่นเริงบันเทิงใจในทะเลโล่งไร้คน รวมทั้งกลับมาทำร้ายการท่องเที่ยวที่เราหวังว่าจะยกระดับเป็น new normal ทะเลชั้นดีเพื่อนักท่องเที่ยวชั้นดี สุดท้ายคือไมโครพลาสติกที่วนกลับมาทำร้ายสุขภาพของเราในที่สุด นาทีนี้ ผมคงได้แต่บอกพวกเราว่า พยายามช่วยลดขยะพลาสติกให้มากที่สุด ใช้ซ้ำให้มากที่สุด แม้มันจะเป็นเรื่องยาก นาทีหน้า ผมหวังว่ากระแสการลดขยะพลาสติกยังไม่จางหาย เมื่อเมืองไทยเริ่มเปิดจริงจังเมื่อไหร่ ทุกหน่วยงานรัฐเอกชนและทุกคนจะกลับมาวางแผน มาทำงานช่วยกันอีกครั้ง มาช่วยกันเหมือนก่อนหน้านี้ ที่เราทำได้ดีมากๆ แต่เรากำลังต้องทำได้ดีมากๆๆๆ ยิ่งกว่าเดิม เพราะเรากำลังเผชิญสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป กำลังเจอการท้าทายที่โหดหินมากยิ่งขึ้น ทำอย่างไรให้ new normal ของคนไทยสามารถไปได้กับสิ่งแวดล้อม ? ขอบคุณนายกตุ้ยที่พยายามดูแลพื้นที่ ขอบคุณอีกหลายท้องถิ่นที่ใช้โอกาสเก็บขยะท่าเรือ ใต้น้ำ ฯลฯ ขอบคุณทุกเพจสิ่งแวดล้อมที่พยายามช่วยกันไม่ให้กระแสตก ทำให้ธรรมชาติยังอยู่ในความสนใจของคนไทย แต่ทั้งหมดนี้คือการประคองสถานการณ์ การแก้จริงจังต้องใช้พลังมากกว่านี้หวังอยากเห็นพลังดังกล่าวในไม่ช้าและยังเชื่อเสมอว่าคนรักทะเลยังไม่ละทิ้งทะเลครับ