เปรียบเทียบรีสตาร์ตไทย-จีน

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkol ระบุว่า มาตรการคลายล็อค Restart ประเทศใหม่ของจีน ใช้ 2 หลักการประสานกันคือ 1 ปลดล็อคเปิดประเทศโดยทั่วไป แต่ปิดกั้นกักตรวจเฉพาะพื้นที่ควบคุม ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่และประชากรส่วนใหญ่ ทำธุรกิจการงานและใช้ชีวิตปกติเป็นลำดับ คงเหลือพื้นที่ส่วนน้อยที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมการตรวจรักษาเท่านั้น 2 กิจการทุกอย่าง ให้รีบเปิดดำเนินธุรกิจตามปกติ ยกเว้นกิจการที่อยู่ภายในพื้นที่ควบคุมก็ให้หยุดกิจการ และกิจการใดที่ผลิตแล้วยังไม่สามารถจำหน่ายได้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโลก ก็ให้เปลี่ยนเป็นการผลิตอย่างอื่น โดยเฉพาะเวชภัณฑ์ เพื่อส่งไปขายให้แก่ทุกประเทศทั่วโลก แม้กระทั่งโรงงานที่ผลิตของปลอมของเถื่อน ให้เปลี่ยนเป็นการผลิตเวชภัณฑ์ทั้งหมด ที่ทั่วโลกต้องการแล้วส่งไปขาย ทำให้เวชภัณฑ์ของจีนครองโลกอยู่ในปัจจุบันนี้ ส่วนบ้านเรา ก็ใช้มาตรการ 2 อย่างเหมือนกัน แต่ต่างกันสิ้นเชิง ก. ยังคงปิดกั้นกักตรวจพื้นที่ทั้งหมดทั่วประเทศ แต่ให้เปิดเป็นบางกิจการ คือปิดส่วนมาก เปิดสวนน้อย ข คลายล้อกแบบครึ่งครึ่งกลางๆ เช่น กำหนดให้ร้านค้า ต้องจัดที่นั่งห่างกัน ร้านค้า 3 คูหามี 12 โต๊ะ แต่นั่งได้แค่ 4 คน ก็เปิดให้บริการไม่ได้ แม้ในห้าง ถ้าเปิดก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเต็มแต่มีพื้นที่ขาย เพียง 25 %เท่านั้น ขืนเปิดก็เจ๊ง! แต่ละวันก็มีคนคอยขู่ผู้ประกอบการ ว่าจะปิดกิจการ ว่าจะจับเข้าคุกวุ่นไปหมด มาตรการคลายล็อค Restart ประเทศที่แตกต่างกันก็ย่อมให้ผลแตกต่างกัน หากนานวันไปอะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเรา???