พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า.. ปราชญ์สามสีได้โพสต์ชื่นชมผมจนเข้าใจกันว่าผมมีเครื่องบินส่วนตัวซึ่งเป็นเรื่องคลาดเคลื่อนนะครับ ผมไม่ได้ร่ำรวยขนาดมีเครื่องบินส่วนตัวหรอกครับ ผมแค่เป็นนักบินที่สามารถขับเครื่องบินได้และสอบใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคล[Private Pilot License , PPL]สำหรับอากาศยานปีกติด[Fixed wing aircraft]ประเภทเครื่องยนต์เดี่ยว [Single engine] มีชั่วโมงบิน 200 ชั่วโมงเศษพอๆกับ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ [ลูกชายของ จอห๋น เอฟ เคนเนดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ] ที่เสียชีวิตจากเครื่องบินตกที่ชั่วโมงบินประมาณ 200 ชั่วโมงเศษพอๆกันกับผมเท่านั้นครับ...555 แต่ผมโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ครับ ผมเป็นนักบินที่ไม่เก่งนักแต่ก็พอบินข้ามจังหวัด[Cross country]ได้ เคยทำการบินแข่งแอร์แรลลี่จับคู่กับท่าน อภิชาต สุขัคคานนท์ อดีตประธานกรรมการการเลือกตั้ง[กกต]ในสมัยที่ท่านยังเป็นผู้พิพากษา เราทำการบินด้วยเครื่องบินเซสน่า172 [Cessna172] จากกรุงเทพฯไปลงสนามบินที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นรันเวย์ที่เป็นพื้นผิวตามภูมิประเทศโล่งไม่ใช่พื้นผิวลาดยาง[แอสฟัลต์]หรือคอนกรีตดังเช่นสนามบินทั่วไปนะครับ แล้วเติมน้ำมันเพื่อทำการบินจากกาญจนบุรีผ่านอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้งซึ่งเป็นมรดกโลก ยังได้ร่อนชมวิวจากบนฟ้าสวยงามมากๆครับ แล้วสู่จุดหมายปลายทางที่สนามบินตาก เราได้โล่ห์รางวัลจากแอร์แรลลีครั้งนั้นด้วยกันครับ เมื่อปี พ.ศ.2540 ผมเข้าเป็นศิษย์การบินรุ่นที่ 50 หลังจากพระราชพิธีกาญจนาภิเษกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 ปีในปี พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นปีที่ผมได้ทำหน้าที่เสนาธิการฝ่ายยุทธการ กรมแพทย์ทหารบกในการวางแผนปฏิบัติการแพทย์สนับสนุนการรักษาความปลอดภัยแก่พระราชอาคันตุกะของพระเจ้าอยู่หัวฯ ...ผมยังได้ร่วมขบวนเสด็จฯ รับสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร , ยังได้ร่วมขบวนประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิลล์ เจฟเฟอร์สัน คลินตัน ฯลฯ...ในปีกาญจนาภิเษกเดียวกันนั้นก่อนที่พระราชอาคันตุกะจะมาเยือนไทย ผมยังได้เป็นผู้บังคับกองพันที่ 3 กรมผสมที่ 6 กองกำลังสวนสนามฯ หน้าพระพักตร์พระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ด้วย...ผมคือ 1 ใน 18 ผู้บังคับกองพัน และผมเป็นคนเดียวที่เป็นนายแพทย์...สมัยนั้นผมหุ่นเพรียว ไม่มีพุง ไม่เป็นตาแป๊ะหงำเหงือกเหมือนตอนนี้นะครับ...ขอโม้ว่าสมัยนั้นแม้รูปจะไม่หล่อ แต่หุ่นฟิตเปรี๊ยะจนผ่านการพิจารณาของแม่ทัพน้อยในขณะนั้น[พลโท สมภพ อัตตะนันทน์ ซึ่งต่อมาท่านคือ พลเอก สมทัต อัตตะนันทน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด] เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจปีกาญจนาภิเษก ผมได้เลื่อนยศจากพันโท ตำแหน่งเสนาธิการฝ่ายยุทธการ ไปเป็นพันเอกในตำแหน่งหัวหน้าเวชศาสตร์การบิน ในปี พ.ศ.2540 เมื่ออายุได้ 37 ปี ผมจึงมีเวลาว่างไปฝึกบินที่สโมสรการบินฯ ฝูงบิน 604 กองทัพอากาศ ...แต่ผมมาทำการบินมากๆ ทุกสุดสัปดาห์ก็ที่สโมสรการบินพลเรือนฯ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยการชักชวนของพี่ชายที่ผมเคารพรักมาก คือ คุณ สุภาพ ปูรานิธี โดยมี น.ต.สุรพล เปรมสมิทธิ์ เป็นครูฝึกของผม วันหนึ่งขณะที่ผมไปราชการที่ รพ.ค่ายนวมินทราชินี ในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ผมได้รับการติดต่อด่วนที่สุดจากศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ให้รีบเข้าประชุมด่วนเนื่องจากมีอากาศยาน ทบ.ประสบเหตุที่ จ.เชียงราย ผมในฐานะหัวหน้าเวชศาสตร์การบินที่เป็นกรรมการนิรภัยการบินของ ทบ.จะต้องเข้าประชุมด่วนด้วย...ผมตัดสินใจให้ทหารจาก รพ.ค่ายไปส่งผมที่สนามบินบางพระแล้วผมก็เช่าเครื่องบินแล้วบินจากชลบุรีไปลพบุรีทันเวลาเข้าประชุมพอดี ผมไม่ได้ร่ำรวยจนมีเครื่องบินส่วนตัวตามที่ปราชญ์สามสีเล่านะครับ...ผมขอโม้ยืดยาวว่าผมแค่ขับเครื่องบินได้เองเท่านั้นครับ...หลอกให้ท่านทั้งหลายเจอฝูงแมลงโม้...นี่คงเป็นประสบการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าประเทศไทยมีสนามบินที่แต่ละแห่งทิ้งร้างว่างเปล่า สูญเสียงบประมาณนับหมื่นล้าน แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ...ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะนำสนามบินร้างมาใช้ประโยชน์หาเงินเข้าประเทศกันเสียที่ พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา 4 พ.ค.63 เวลา 21.45 น.