นพ.สมนึก สังฆานุภาพ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า...วันนี้ สื่อจากประเทศจีนสัมภาษณ์ผมหลายคำถามที่เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 และพยายามถามว่าถ้าคนไข้มีจำนวนพุ่งสูงมากเร็วมากจนเกินกำลัง ผมจะเลือกรักษาคนกลุ่มไหน และปล่อยคนกลุ่มไหนไป เอากันจริงๆ เราก็ไม่เคยตอบตัวเราเอง แม้ว่าจะเคยถามคำถามนี้กับตัวเราเองเมื่อเห็นข่าวคนไข้ COVID-19 ตายจำนวนมากในจีน อิตาลี สเปน และนิวยอร์ก คนไข้ที่ต้องตายเพราะโรงพยาบาลรักษาไม่ไหว เตียงไม่พอ หมอไม่พอ พยาบาลไม่พอ ยาและเวชภัณฑ์ไม่พอ แต่เมื่อโดนคาดคั้นจากสื่อจีน ที่อยากจะได้คำตอบ ผมก็พยายามตอบ เพราะมันอาจจะเกิดขึ้นจริงสักวันหนึ่งก็ได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะถ้าประชาชนคนไทยปล่อยมือจากการช่วยกันป้องกันตนเองและผู้อื่นที่เคยทำกันได้ดีมาเป็นเดือนจนสถานการณ์ดีขึ้น ผมตอบไป เพื่อว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงในอนาคต ผมจะดูว่าเราจะทำได้ตามที่พูดหรือเปล่า ผมไม่คิดว่าเราซึ่งเป็นหมอ หรือใครก็ตาม จะมีสิทธิ์ในการตัดสินว่าเราควรจะเลือกรักษาชีวิตใคร แล้วปล่อยใครไป ไม่ว่าจะเป็นเด็กน้อย วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้พิการ หรือใครก็ตาม ทุกชีวิตมีค่าในตัวเอง ถ้ายังไม่เลยจุดที่เราสามารถรักษาได้ เราควรรักษาทุกๆคน และไม่อาจจะปล่อยใครไปได้โดยไม่ได้ลองรักษาดูก่อน ถ้าถึงจุดที่เราเต็มกำลังแล้วเราขาดคนรักษา เราจะเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากทุกคนทุกแหล่งที่สามารถช่วยเราได้ เราจะทำงานให้เร็วขึ้นนานขึ้น นอนให้น้อยลง ถ้าถึงจุดที่เรามีสถานที่ไม่พอ เราจะต้องสร้างมันขึ้นมา แม้จะเป็นแค่สถานที่ชั่วคราว เราจะต้องดัดแปลงจากสถานที่ที่ไม่ใช่โรงพยาบาลที่เรามีอยู่แล้ว โดยขอกำลังจากทุกภาคส่วน ถ้าถึงจุดที่เราขาดยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ เราจะเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนช่วยเหลือ เพื่อให้เราสามารถช่วยชีวิตคนป่วยได้ เราจะทำได้จริง ถ้าเราคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันเหตุการณ์ และถ้าเราเล็งเห็นว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ๆ เราจะเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เราเชื่อในบุคคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทย เราเชื่อในประชาชนคนไทย ที่จะช่วยเหลือกันเสมอเมื่อถึงคราวคับขัน #อย่ารังเกียจผู้ป่วยCOVID19กลับบ้าน #เราอยู่ที่นี่เพื่อคุณ #โปรดอยู่ในบ้านเพื่อเรา #กลับจากต่างประเทศโปรดกักตัว14วัน #DoctorsFightingCOVID19 #CNMI #Ramathibodi #homefornow #socialdistance #wehereyouhome #ประเทศไทยเราต้องรอด #เราจะสู้ไปด้วยกัน