เมื่อวันที่ 3 พ.ค.63นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานเขตจตุจักร สน.พหลโยธิน มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทร์เกษม สมาคมการค้าประกอบการรีไซเคิลไทย สมาคมการค้าผู้ประกอบการค้าของเก่าไทย สมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทย มอบเงินทุนและชุดยังชีพข้าวสารอาหารแก่ซาเล้งผู้ประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า ในช่วงบรรเทาทุกสถานการณ์โควิด-19 โดยมี ชาวซาเล้งซอยเสือใหญ่ ถนนรัชดาและอื่นๆกว่า 500 ครัวเรือนมารับมอบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ดีใจได้พบกับซาเล้งเพื่อนยากอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสนำกระทรวงพาณิชย์ มาช่วยดูแล และส่วนลึกของผมมีความปรารถนาอยากช่วย เพราะถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพสุจริตเพียงแต่ว่าอาจจะเป็นผู้ประกอบสุจริตในระดับรากหญ้า เมื่อมีความทุกข์อย่างน้อยที่สุด ต้องเป็นหน้าที่ของนักการเมืองอย่างพวกตนและเป็นหน้าที่ของส่วนราชการ หน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเข้ามาช่วยดูแลพวกเรา “วันแรกที่ได้คุยกับพวกเราเศษกระดาษราคาตกไปจนถึงกิโลกรัมละ 50 สตางค์อย่างที่ลุงบุญยิ่งได้กล่าวไปแต่หลังจากที่ผมได้จัดให้มีเวทีพบปะกัน 3-4 ครั้งระหว่างตัวแทนของพวกเรา ผู้รับซื้อของเก่าและโรงงานต้มเยื่อกระดาษ รวมทั้งโรงงานผลิตกระดาษรีไซเคิลสถานการณ์ก็ดีขึ้นช่วยให้พวกเราสามารถนำเศษกระดาษไปขายได้อีกกิโลกรัมละ 1 ถึง 2 บาทและลุงบุญยิ่ง (ชาวซาเล้ง)บอกว่าบางช่วงขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 3 บาทก็ขอแสดงความดีใจด้วยอยากเห็นพวกเรามีรายได้ที่ดีขึ้น เพราะรู้ว่าพวกเราเหน็ดเหนื่อย ซาเล้งบางคนไม่มีเงินซื้อซาเล้งต้องใช้รถเข็นเดินไปเป็นกิโล หรือวันหนึ่งไม่รู้กี่กิโล ได้มาไม่รู้จะพอกินหรือเปล่า ถ้ามีโอกาสจะช่วยเหลือเจือจุน ยินดีช่วยเหลือดูแลพวกเราเสมอ” ทั้งนี้ดีใจที่ลุงบุญยิ่งบอกว่าชาวซาเล้งวันนี้ได้จัดตั้งขึ้นมาเป็นสมาคมแล้วต่อไปเวลาเดือดร้อนอะไรก็จะได้ไม่อยู่ตามลำพังอย่างน้อยมีตัวแทนที่จะไปช่วยเจรจากับกลุ่มต่างๆ เพื่อที่จะให้พวกเราได้มีสถานะชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและดีใจที่ได้มีโอกาสมาพบกับพวกเราที่ชุมชนเสือใหญ่และชุมชนใกล้เคียงวันนี้ ไปต่างจังหวัดเมื่อไหร่ถ้ามีพวกเราชาวซาเล้งอยู่ตั้งใจบอกกับปลัดกระทรวงแล้วว่าจะถือโอกาสไปพบกับพวกเราด้วย และไปเยี่ยมถามสารทุกข์สุกดิบกับพวกเราที่กระจายอยู่ทุกภาคต่างๆ ทราบว่าพวกเรามีรวมกันทั้งประเทศถึง 1.5 ล้านคนกระจายกันทำอาชีพสุจริตดีใจที่พวกเราสามารถที่จะมีรายได้มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาตอนนี้อาจจะตกลงไปอีกเพราะวิกฤติโควิด แต่เนื่องจากเจอกันทุกคนไม่ใช่เฉพาะพวกเรา ขอให้อดทนพวกผมจะยืนเคียงข้างอยู่กับพวกเรา นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีตัวแทนชาวอาชีพซาเล้งอยากได้สิทธิ 5,000 บาทด้วยการขี้นทะเบียนนั้นจะลองหารือกับรัฐบาลดูว่าเข้าข่ายอาชีพอิสระที่สามารถจะได้รับเงินเยียวยาด้วยหรือไม่ ถ้าได้สามารถช่วยพูดให้จะช่วยเจรจาให้เพราะรู้ว่ายามนี้เงิน 5,000 บาทต่อเดือนมีคุณค่าสำหรับชีวิตและครอบครัวที่มีภาระ บ้างลูกต้องเรียนหนังสือ บางคนสามีป่วยติดเตียง จะพยายามช่วยเจรจาว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายจุรินทร์ และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือ 4 ฝ่าย ได้แก่ ซาเล้ง ร้านรับซื้อของเก่า โรงอัดกระดาษ และโรงผลิตกระดาษ จากปัญหาราคากระดาษในประเทศตกต่ำเฉลี่ย ซื้อ-ขายกิโลกรัมละ 50 สตางค์ถึง 1 บาท จากเกิน 2 บาท โดยที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันรับซื้อเศษกระดาษเป็นไปตามกลไกราคาตลาด เพื่อปรับให้ราคาสูงขึ้นตลอดห่วงโซ่ เป้าหมายช่วยให้ซาเล้งมีรายได้ที่ดีขึ้น และเมื่อมีสถานการณ์โรคระบาดจึงได้มีการประสานงานนำกระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยบุคคลซึ่งมีอาชีพฐานรากของสังคมซึ่งได้รับความเดือดร้อน