เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 พ.ค.63 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา เปิดเผยถึงมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางผ่านและเข้ามาในในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ช่วงวันหยุดยาว ว่า ได้รับรายงานส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางผ่าน ได้จอดแวะตามสถานีบริการเชื้อเพลิงที่ตั้งอยู่ตามรายทาง เพื่อทำธุระส่วนตัวและซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่ร้านสะดวกซื้อ สาระสำคัญเพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดและมิให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา มีมติเห็นชอบกำหนดมาตรการเพิ่มเติม โดยมีคำสั่งให้ฝ่ายปกครอง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ทั้ง 32 อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และผู้นำชุมชนระดมสรรพกำลังลงพื้นที่สำรวจข้อมูลผู้ที่เดินทางจากนอกพื้นที่ กรณีเป็นกลุ่ม 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพ ภูเก็ต นนทบุรี ยะลา สมุทรปราการ ชลบุรี ปัตตานี สงขลา เชียงใหม่และปทุมธานี ต้องกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการที่บ้านพักเป็นเวลา 14 วัน จากนั้นให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว รวมทั้งสังเกตอาการ เน้นการเว้นระยะห่างทางสังคม หากมีความเสี่ยงจำเป็นต้องกักตัว ให้ออกคำสั่งโดยเร็ว เบื้องต้นขอความร่วมมือ หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที ทั้งนี้หากผู้ที่ถูกกักตัวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับก่อนครบกำหนด ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและประเมินเบื้องต้น กรณีมีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเชียสให้นำส่งโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้ให้ประชาสัมพันธ์ผู้ที่เดินทางมาจากกลุ่ม 10 จังหวัด พักอยู่กับครัวเรือน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรังและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ให้ถือปฏิบัติระยะห่างอย่างเคร่งครัด สสจ.นครราชสีมา กล่าวถึง ผลการคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ 818 ราย ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 19 ราย รักษาหาย 13 ราย รอผลตรวจยืนยัน 4 ราย ส่วนความคืบหน้าการรักษาผู้ป่วยจำนวน 6 ราย ซึ่งรักษาตัวที่ รพ.มหาราช 3 ราย รพ.โชคชัย 2 ราย และ รพ.สูงเนิน 1 ราย ทั้งหมดอาการดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีไข้ ไอ น้ำมูก โดยรอการตรวจเชื้อซ้ำหากไม่พบภาวการณ์การติดเชื้ออนุญาตให้กลับไปฟื้นฟูร่างกายจิตใจ