กรมประมง เปิดรายชื่อเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ 5 สาขา ด้านการประมง ประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายให้ส่วนราชการในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานดีเด่นในการประกอบอาชีพระดับชาติ เพื่อเป็นการยกย่องประกาศเกียรติคุณ และเสริมสร้างให้เกิดขวัญกำลังใจ พร้อมเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักยึดถือเป็นแบบอย่างตามแนวทางการปฏิบัติงานด้านการเกษตรประจำทุกปี โดยในปีนี้ ในส่วนของกรมประมงได้มีการคัดเลือกเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 5 สาขา ดังนี้ เกษตรกรดีเด่นจำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย 1.สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายศุภสิทธิ์ เขื่อนแก้ว จังหวัดเชียงราย 2.สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายสุรกิจ ละเอียดดี จังหวัดสมุทรปราการ 3.สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายพิบูลย์ชัย ชวนชื่น จังหวัดสมุทรสาคร สถาบันเกษตรกรดีเด่นอีก 2 สาขา ประกอบด้วย 1.กลุ่มเกษตรกรทำการประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ ชมรมประมงพื้นบ้านตำบลปะนาเระ อ.ปะนาเระ จังหวัดปัตตานี 2.กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนปลาร้าบองท่าตูม จังหวัดอุดรธานี สำหรับเกษตรกรชาวประมงที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขานั้น กรมประมงได้มีหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเกษตรกรดีเด่น จะต้องมีคุณสมบัติ อาทิ เป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดีไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละเพื่อส่วนรวม มีผลงานทางการเกษตรดีเด่นเป็นพิเศษ และเผยแพร่ให้แก่ส่วนรวมได้นำไปใช้ประโยชน์ สมควรแก่การยกย่องให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติในสาขาเดียวกันมาก่อน ส่วนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นต้องมีคุณสมบัติเป็นสถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย หรือเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี มีข้อมูลย้อนหลังให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ปี หากเป็นสถาบันเกษตรกรที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาใหม่ ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาแตกต่างกันในแต่ละด้าน กล่าวคือ เกณฑ์การให้คะแนนการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นพิจารณาให้คะแนนใน 4 ด้าน ได้แก่ 1.ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน 2.ผลงานและความสำเร็จของผลงานทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ 3.ความเป็นผู้นำและการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ 4.การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับสถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ดีเด่นมีการพิจารณาให้คะแนนใน 5 ด้าน ดังนี้ 1.มีความคิดริเริ่ม 2.มีความสามารถในการบริหารและการจัดการสถาบันเกษตรกร 3.บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบันเกษตรกร 4.ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบันเกษตรกร และ5.การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “กรมประมงขอร่วมแสดงความยินดีกับเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่นที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 สาขา และพร้อมที่จะผลักดันพี่น้องเกษตรกรชาวประมงรายอื่น ๆ เพื่อเป็นต้นแบบและเครือข่ายในการร่วมกันพัฒนาภาคการประมงของประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”รองอธิบดีกรมประมง กล่าว