เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2563 นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Watana Muangsook ระบุว่า... โควิด-19 ทำให้มนุษย์ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตตามปกติมาสู่ความปกติตามวิถีใหม่ (new normal) เช่น ต้องสวมใส่หน้ากาก ต้องเว้นระยะห่าง ต้องงดการมีปฏิสัมพันธ์ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ชีวิตที่ผิดจากธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความเต็มใจแต่ที่ต้องยอมทำเพราะความกลัวตาย ก่อนหน้านี้เราวางโครงสร้างประเทศด้วยการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น เช่น เขื่อน ถนนหนทาง เป็นต้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ความกลัวตายของมนุษย์จากโควิด-19 หรือไวรัสตัวอื่นที่จะพัฒนาและกลายพันธุ์ต่อไปได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยสิ้นเชิง มนุษย์ได้หันมาใส่ใจกับสุขภาพและความสะอาด (Health & Hygienity) เป็นลำดับแรก นั่นคือโอกาสของประเทศไทยที่ผมและพรรคเพื่อไทยพูดมาตลอดตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ประเทศไทยจึงต้องเร่งวางโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ทางด้านสุขภาพและความสะอาดเพื่อเป็นพื้นฐานของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว หรืออุตสาหกรรมบริการ โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวคือกระบวนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อว่าสินค้าและบริการของไทยมีมาตรฐานความปลอดภัยทางสาธารณสุขสูงในระดับโลก เช่น การยกระดับหรือสร้างมาตรฐาน (capacity building) ให้กับผู้ประกอบการหรือพนักงานในการให้บริการ หรือการผลิตสินค้า รวมทั้งการลงทุนเครื่องมือทางสาธารณสุขเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อและผู้ที่จะมาใช้บริการของไทย เป็นต้น โอกาสแบบนี้ร้อยปีมีครั้ง ทำให้ไทยสามารถเริ่มต้นทางธุรกิจได้ก่อนทุกชาติในโลก โดยเฉพาะชาติทางตะวันตกที่ยังเริ่มต้นไม่ได้เนื่องจากต้องหยุดทุกอย่างเพื่อควบคุมโรคและรักษาคนที่ติดเชื้อนับหมื่นนับแสน แต่จำนวนผู้ป่วยของเราต่ำสิบซึ่งต้องยกย่องบุคลากรทางการแพทย์จึงทำให้เราได้เปรียบเริ่มต้นได้ก่อน ยกเว้นรัฐบาลจะห่วงตัวเองกลัวคนออกมาไล่เลยหาเหตุแช่แข็งประเทศต่อ เงินมีพร้อมและเพียงพอ เหลือแค่สติปัญญาที่จะทำให้เป็นโอกาสหรือเป็นมหาวิกฤต