ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า... 1/ หลักฐานทางการแพทย์ชี้ชัดขึ้นเรื่อยๆว่าโรคนี้ไม่อันตรายต่อเด็ก เด็กต่ำกว่า10ปีไม่เป็นพาหะที่ทำให้เกิดการระบาดของโควิด ไม่มีการระบาดในรร. และผอ.โรคระบาดของสวิสถึงขั้นแถลงว่า เด็กๆสามารถกอดปู่ย่าตายายของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตของผู้สูงวัยด้วย (photo: NYT) 2/ นั่นคือเหตุผลที่ทุกประเทศที่ตัดสินใจด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ จะเปิดโรงเรียนประถมก่อนเป็นอันดับแรก . เคยตั้งข้อสังเกตเหมือนกัน ว่าในเคสของคุณแมทธิว ทำไมลูกเล็กๆสองคนไม่ติดจากคุณพ่อคุณแม่ อันที่จริงก็ไม่มีใครติดเลยนอกจากภรรยาคนเดียว 3/ ซึ่งไม่น่าจะแปลว่าเด็กติดไม่ได้เลย แต่น่าจะติดยากมากๆหรือหากติดก็อาการเบามาก (แต่เพื่อนที่ทำงานในรพ.สวีเดนก็ยืนยันว่าไม่มีผู้ป่วยเด็กเลย) มีโรคหลายอย่างที่มีลักษณะอย่างนี้ ในทางตรงกันข้าม มีบางโรคที่ระบาดเฉพาะในโรงเรียนเช่นกัน อย่างมือเท้าปากที่มักระบาดในเด็กอนุบาล 4/ ในประเทศที่อัตราการเสียชีวิตต่ำมากๆ แม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงมากนั้น เป็นเพราะเขาตั้งใจปกป้องผู้สูงวัยและคนที่มีปัญหาสุขภาพ เพราะในคนปกติ ยากมากที่จะเป็นแล้วจะอาการหนักถึงขั้นไอซียูหรือเสียชีวิต จึงปล่อยให้คนที่เหลือได้ใช้ชีวิต ป้องกันตนเองตามความสมัครใจ ไม่ทำลายเศรษฐกิจ 5/ เมื่อเร็วๆนี้ ศาสตราจารย์ชาวสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญระดับที่ปรึกษารัฐบาลและ WHO เปรียบเทียบความรุนแรงไว้ว่าเทียบเท่าไข้หวัดใหญ่ที่หนักหน่อย เป็น Tsunami of mild disease คือสึนามิของโรคที่ไม่รุนแรง คนส่วนใหญ่เป็นแล้วหายเองโดยไม่รู้ตัว 6/ และจะต้องพัดผ่านทุกประเทศจนมนุษย์เรามีภูมิคุ้มกันกันไปในที่สุด ไม่ว่าคุณจะพยายามกดมันไว้อย่างไรก็ตาม คุณก็แค่เลือกระหว่างการระบาดคราวเดียว ค่อยเป็นค่อยไป หรือเป็นระลอก แต่จะหลบหนีตลอดไปไม่ได้ 7/ จะรักษาสมดุลย์ความเสียหายด้านต่างๆได้อย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและการเลือกยุทธศาสตร์ ซึ่งการประเมินผลจะทำได้หลังผ่านไป 1 ปี ว่าเมื่อเอาตัวเลขทั้งการเสียชีวิตรวม “ทุกระลอก” จนสุดทาง พร้อมตัวเลขเศรษฐกิจ และความเสียหายด้านต่างๆมาดูกันแล้ว ได้ภาพอย่างไร