ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบไปทั่วโลก เราได้เห็นพลังของคนไทยที่ร่วมมือกันต่อสู้อย่างมีความหวัง เห็นพลังจากทั่วโลกในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อต่อสู้กับโรคร้ายนี้ ทุกคนเริ่มต้นที่ตัวเอง ทั้งการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) สวมใส่หน้ากากอนามัย อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยที่ทุกองค์กรต่างมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อประคับประคองประเทศในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ พนักงานเดินเครื่องโรงไฟฟ้าต้องกักตัวอยู่ใน Safe Zone ตลอด 24 ชั่วโมง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตระหนักดีว่า ไฟฟ้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ทำให้ กฟผ. จำเป็นต้องกำหนดมาตรการ ZERO COVID สำหรับพนักงานที่ต้องทำหน้าที่ผลิตและจ่ายไฟฟ้า โดยกักบริเวณอยู่ใน Safe Zone อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าจะมีความมั่นคง รองรับสถานการณ์วิกฤติได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันลบช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ทุกครั้งที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤต คนไทยไม่เคยทิ้งกัน ทำให้เราสามารถก้าวข้ามวิกฤตต่าง ๆ มาได้เสมอ รวมถึงวิกฤต COVID-19 ครั้งนี้ด้วย เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ หรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต้องการความช่วยเหลือ กฟผ. ก็พร้อมร่วมเป็นธารน้ำใจหลั่งไหลไปทั่วประเทศ ไม่ว่าแต่ละพื้นที่ต้องการความช่วยเหลือในรูปแบบไหน หาก กฟผ. สามารถช่วยเหลือได้ก็จะทำอย่างเต็มกำลัง ทั้งการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ระดมวิศวกร ทีมช่าง กฟผ. จากทั่วประเทศ ผลิตสิ่งประดิษฐ์มอบให้กับโรงพยาบาล ทั้งตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันบวกและความดันลบ เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย และเมื่อผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 แล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจได้อีกด้วย การผลิตเจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. แจกจ่ายให้ประชาชนฟรี หรือแม้กระทั่งร่วมกับวัดแจกข้าวกล้องไข่เจียวเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพราะ กฟผ. เชื่อมั่นเสมอว่า หากคนไทยร่วมมือกัน เราทุกคนจะสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดีเฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา “กฟผ. พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทย เพื่อก้าวข้ามความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน”