"ครม."ไฟเขียวขยายเวลาใช้พ.ร.ก.ฉุกฉิน-เคอร์ฟิวอีก1เดือน สู้โควิด-19ระบาด เบรกเลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ 4 วัน หวั่น"ปชช."ลาหยุดเพิ่มทำเชื้อไวรัสมรณะระบาดซ้ำ "ศบค."เตือนคนกรุงอย่าวางใจตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อลดลง ยันต้องดูแลเข้มเหมือนเดิม "ผู้ว่าฯกทม." เล็งปลดล็อก 8 สถานที่ เปิดบให้ริการได้ 1 พ.ค.นี้ ขณะที่"คลัง" เผยครบเดือนมีผู้ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5 พัน ทะลุ 10.6 ล้านราย จากยอดลงทะเบียน 24 ล้านราย ยกเลิกลงทะเบียน 9.5 แสนราย ด้าน"บิ๊กตู่"เมินการเมืองไม่ใช่เรื่องสำคัญในช่วงโควิด-19 เผย 20 มหาเศรษฐีสัญญาจะร่วมมือรบ.ดูแลคนไทย ลั่นไม่มีฮั้ว-ให้เงิน สั่งจัดการเฟคนิวส์อย่าอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไล่ไปพิสูจน์ในชั้นศาล ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 เม.ย.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในส่วนการเมืองขออนุญาตไม่ตอบในช่วงนี้ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ช่วงนี้เป็นเรื่องการทำงาน การฟื้นฟู และคืนความสุขให้ประชาชน หลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนเรื่องการรับฟังความคิดเห็นจากธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่ 20 ราย ซึ่งวันนี้ได้ทยอยส่งมาแล้ว ไม่เห็นมีใครจะมาให้เงินรัฐบาล วันนี้ไม่ควรจะมีข้างกัน ควรจะเป็นข้างเดียวกันหมด เพื่อที่จะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด "ต้องขอบคุณผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ 20 ท่าน ที่กรุณาเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์มา และไม่มีใครมาร้องขอผลประโยชน์อะไรกับผมสักคน ไม่มีใครจะให้เงินรัฐบาลสักอย่าง เพราะผมคงไปรับเงินไม่ได้และไม่ได้มีการตอบแทนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน อันนี้ขออย่าไปรับฟังคำบิดเบือนต่างๆ หลายคนวันนี้มีปัญหาเรื่องเฟค นิวส์ ผมได้เน้นย้ำให้ทุกกระทรวงติดตาม กรณีมีการแพร่คำพูดที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง จนทำให้เกิดผลกระทบในการทำงาน ตรงนี้ต้องใช้กฎหมายเข้าไปดูแล ที่ผ่านมามีการจับกุมดำเนินคดีหลายรายการ หลายผู้ต้องหา และทุกคนพูดอย่างเดียวคือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์ทราบตัวเองในชั้นศาล" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนว่า ขณะนี้รัฐบาลก็ช่วยเหลือทุกกลุ่ม ทั้งในระบบ นอกระบบ หรืออาชีพอิสระ จนยอดจากเดิม 3 ล้านคน เพิ่มมาเป็นหลายสิบล้านคนแล้ว จะเห็นได้ว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลประชาชนให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องช่วยรัฐบาลด้วย วันนี้ทราบดีถึงความลำบากของพี่น้องทุกคน ซึ่งรัฐบาลก็มีมาตรการหลายอย่างช่วยเหลือเยียวยา และขอให้รอการดำเนินการให้ครบขั้นตอนก่อน ซึ่งต้องมีคณะกรรมการดำเนินการอีกขั้นหนึ่งแต่ยืนยันว่าผมจะดูแลให้ดีที่สุดในทุกภาคส่วน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมครม.มีมติต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน พร้อมทั้งคงประกาศการห้ามประชาชนออกจากเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ทั่วประเทศในเวลา 22.00-04.00 น. และมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายประชาชน ส่วนเรื่องการผ่อนปรนนั้นต้องรอฟังแถลงภายในสัปดาห์นี้ โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ หากผ่อนปรนแล้วมีการติดเชื้อกลับมาอีก ก็จะสั่งปิดทันที ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็น 0 ในกทม. ว่า ต้องชมคนกทม.ที่ร่วมกันทำตัวเลขเป็นศูนย์ และวันนี้ตัวเลขอยู่ที่ 3ราย แต่จะบอกว่าเบาใจ หรือไว้วางใจ และใช้ชีวิตเหมือนเดิมยังไม่ได้ แต่เราจะใช้ชีวิตปกติได้ ก็ต่อเมื่อเรามียารักษา และมีวัคซีนรักษาโควิดให้หายได้ ดังนั้นเรายังต้องป้องกันตัวเอง และวันนี้ยังต้องเข้มในการป้องกันควบคุมอย่างดี เพื่อตัวเลขนี้จะคงต่อไปอีก 14 วันข้างหน้า ท่านทำวันนี้ก็จะบ่งบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่ รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุว่า ในวาระพิจารณาเรื่องวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนพ.ค.หลังที่ประชุมศบค.ได้เสนอให้เลื่อนวันหยุดทั้ง 4 วันประกอบด้วยวันแรงงานวันที่ 1 พ.ค. วันฉัตรมงคลวันที่ 4 พ.ค. วันวิสาขบูชาวันที่ 6 พ.ค. และวันพืชมงคลวันที่ 11 พ.ค. ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้มีวันหยุดนั้น ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันข้าม โดยมีมติว่าให้มีวันหยุดทั้ง 4 วัน เหมือนเดิม เนื่องจากช่วงวันที่ 1-11 พ.ค. มีวันหยุดใกล้กันหลายวัน เมื่อรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจจะมีผู้ลาเพิ่มให้ได้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน เป็นเหตุให้การเดินทางข้ามจังหวัด เสี่ยงต่ออุบัติเหตุและการแพร่โรค จึงขอให้ประชาชนอยู่บ้านงดเดินทางไปต่างจังหวัด ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ว่า กทม.เตรียมออกมาตรการผ่อนปรน จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยกทม.เสนอแนวทางผ่อนปรน 8 ประเภทสถานที่ให้สามารถเปิดได้ แต่ต้องทำตามมาตาการที่กำหนด ประกอบด้วย 1.ร้านอาหาร นั่งทานที่ร้านได้แต่ต้องจัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร และห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2.ตลาด และตลาดนัด ให้ขายสินค้าได้ทุกประเภท 3.สถานที่ออกกำลังกาย เป็นประเภทที่มีระยะห่างกัน รวมถึงศูนย์กีฬาและศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครจะเปิดบริการให้เข้าไปออกกำลังกายได้เฉพาะกีฬาที่ไม่ใกล้ชิดกันเช่น เดิน วิ่ง สนามแบดมินตัน เทนนิส เทเบิลเทนนิส เป็นต้น ไม่อนุญาตกีฬาประเภททีมเช่น ฟุตบอล ซอฟต์บอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล กีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน 4.สวนสาธารณะ ให้เข้าใช้ออกกำลังกาย พักผ่อนได้ แต่ห้ามจับกลุ่มสังสรรค์ 5.ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะตัด สระ ไดร์ เท่านั้น และต้องหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม. ให้จองคิวเข้ารับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอในร้าน ช่างใส่หน้ากากและ Face Shield ด้วย 6.ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ นำสัตว์เข้าร้านได้ 1คน/1ตัว เท่านั้น และหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชม. 7.โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล 8.สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อม โดยจะนำเข้าประชุมในคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครในวันที่ 29 เม.ย.63 เพื่อเตรียมออกมาตรการหลังจากวันที่ 30 เม.ย.ต่อไป ส่วนการห้ามขายสุราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงวันที่ 30 เม.ย.63 จะมีการขยายต่อไปหรือไม่นั้น ต้องรอความชัดเจนจากทางรัฐบาลที่เข้าที่ประชุมครม. สำหรับในส่วนของห้างฯ โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงนั้นยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ ด้าน นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยถึงมาตรการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 5,000 บาท หลังดำเนินการครบ 1 เดือน ว่า มีการลงทะเบียนรวม 28.8 ล้านรายการ (ปิดรับลงทะเบียนเมื่อวันที่ 22 เม.ย.63) ในจำนวนนี้เมื่อหักการลงทะเบียนซ้ำหลายครั้งออกแล้ว คงเหลือผู้ลงทะเบียน 24 ล้านราย โดยพบว่า เป็นผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตน จากฐานข้อมูลของกรมการปกครอง 1.7 ล้านราย คงเหลือผู้ลงทะเบียนที่เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองตามหลักเกณฑ์จำนวน 22.3 ล้านราย จึงมีผู้ที่เข้าข่ายได้รับสิทธิการชดเชยจำนวนทั้งสิ้น 16 ล้านราย ซึ่งเป็นผู้ผ่านเกณฑ์ แล้วจำนวน 10.6 ล้านรายและกระทรวงการคลังได้โอนเงินเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับสิทธิส่วนใหญ่จำนวน 7.5 ล้านราย อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.-29 เม.ย.63 โดยในวันที่ 30 เม.ย.63 จะมีการโอนเงินเยียวยาอีก 4.8 แสนราย ส่วนที่เหลืออีก 2.6 ล้านราย จะเร่งโอนให้ภายในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.63 โดยกลุ่มนี้จะได้รับเงินเยียวยารวมเป็น 2 เดือน "กระทรวงการคลังได้ใช้ฐานข้อมูลและระบบการคัดกรองคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนแล้ว พบว่ามีผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติจะได้รับสิทธิ เนื่องจากมีสิทธิหรือเข้าข่ายจะได้รับสิทธิเยียวยาจากรัฐบาลผ่านทางกลไกอื่นอยู่แล้ว แบ่งเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรตามฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร 4.2 ล้านราย เป็นข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือผู้รับเบี้ยหวัดและผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิชดเชยรายได้ในระบบประกันสังคม 1.1 ล้านราย และมีผู้ขอยกเลิกการลงทะเบียน 9.5 แสนราย" วันเดียวกัน นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธานส.ส.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรค พปชร.เปิดทางเคลียร์ใจหลังมีไลน์หลุดจากกลุ่มส.ส.ภาคกลาง จะช่วยเหลือตัวเอง หลังหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค พปชร.ไม่ช่วยเหลือลูกพรรคว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานส.ส.ภาคกลาง และตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา เพื่อให้ส.ส.ภาคกลางได้พูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อจะได้ลงไปดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักๆ "วันนั้นมันเป็นเรื่องของความเป็นลูกผู้ชาย ผมก็นักเลงพอ ต้องมีความรับผิดชอบ เพราะเมื่อเขาไม่ช่วยพวกเรา เราก็ต้องช่วยตัวของเราเอง เพราะการทำการเมืองเหนือหน้าที่ของการเป็นผู้แทนราษฎร ที่พี่น้องประชาชนเลือกมา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเป็นห่วงพื้นที่ ฉะนั้นผมและพวกเรา ที่พอมีช่องทางก็ต้องช่วยกันดูแลพี่ๆ เพื่อนๆ ส.ส. ภาคกลางประมาณ 20 คน ให้ยืนอยู่ในพื้นที่ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้" นายสุชาติ ยังกล่าวถึงกระแส พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และประธานยุทธศาสตร์พรรคพปชร. ต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ว่า ส.ส.ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีการกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือกำหนดวาระการประชุม เมื่อถามว่า หากมีการประชุมจะมีการหารือเรื่องปรับครม.หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นอำนาจและดุลพินิจ ของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ตนไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ และขอช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้ผ่านพ้นวิกฤติชาติครั้งนี้ ไปให้ได้สมบูรณ์