“สนธิรัตน์”มั่นใจ กกพ.เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่องควิกวิน 100 เมกะวัตต์ได้ในเร็วๆนี้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก จ้างงานรวมเร็วรับมือโควิด-19 พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำมันใกล้ชิด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์โดยในส่วนของไทยเกิดปัญหาเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยานที่ยอดใช้ลดลงกว่าร้อยละ 90 ส่วนน้ำมันอื่นๆใช้ลดลงตามนโยบายสกัดกั้นโควิด-19 ทำให้ไทยประสบปัญหาถังเก็บน้ำมันไม่เพียงพอ ทางกระทรวงพลังงานจึงได้ลดสำรองน้ำมันดิบมีผลเดือนพ.ค.63 ส่วนจะลดเพิ่มอีกหรือไม่ตามที่มีผู้เสนอให้ลดลงเหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อลดการขาดดุล และลดการขาดดุลสตอกของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งขณะนี้คงเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจ ซึ่งหวังว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายโดยเร็ว และการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น โดย ครม.วันที่ 3 เม.ย.63 เห็นชอบมาตรการผ่อนปรนการจัดเก็บสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายจาก 6% เหลือ 4% ในช่วง 1 ปี และจะเพิ่มเป็น 5% ใน 1 ปีถัดไป ขยายระยะเวลาการคงอัตราสำรองก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ตามกฎหมายที่ 1% ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน (สิ้นสุด 30 มิ.ย.64) และสนับสนุนการเพิ่มปริมาณการจัดเก็บน้ำมันของคลังน้ำมันบริเวณคลองเตย บางจาก ช่องนนทรี กรุงเทพ ฯ เพื่อรองรับภาวะน้ำมันที่มีปริมาณล้นสต็อก โดยให้มีปริมาณการจัดเก็บน้ำมันสูงสุดได้ตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับแผนงานส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน ประเภทควิกวิน 100 เมกะวัตต์ ขณะนี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้ส่งรายละเอียดการรับฟังความคิดเห็นฉบับครบถ้วนไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือ กกพ.เรียบร้อยแล้วคาดหวังว่า กกพ.จะประกาศโครงการเร็วๆนี้ แม้ว่าแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.1) ที่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)เมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 แต่ ครม.ยังไม่ได้พิจารณา เพื่อเห็นชอบแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำขนานกันไปได้ โดยการประกาศรับซื้อจะลงนามในสัญญาก็ต่อเมื่อพีดีพีผ่าน ครม.เรียบร้อยแล้ว แม้พีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงที่มีเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชนจะยังไม่ผ่านการพิจารณาจาก ครม. แต่การประกาศรับซื้อก็ทำควบคู่ขนานกันไปได้ เพื่อให้เป็นโครงการที่ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก จ้างงานอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมเกษตรกรปลูกพืชพลังงานที่จะเป็นส่วนหนึ่งลดผลกระทบจากโควิด-19