"เฉลิมชัย" สั่งเร่งหน่วยงาน ให้ปฏิบัติการรณรงค์หยุดเผาประจำพื้นที่เสี่ยง ออกตรวจ ป้องปราม ระงับ ยับยั้ง พร้อมให้ความรู้การใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุทางการเกษตรทดแทนการเผา จากสถานการณ์วิกฤตหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง คือการเผาพื้นที่การเกษตรเพื่อเตรียมเพราะปลูกสำหรับฤดูกาลผลิตถัดไป ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ซึ่งปัญหาละอองฝุ่น PM2.5 เป็นตัวการสำคัญที่มีผลต่อการทำงานของระบบทางเดินหายใจ ประกอบกับปัจจุบันเรากำลังประสบกับปัญหาวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่สามารถเข้าทำลายปอด และส่งผลให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจเช่นกัน นอกจากนี้ การเผาในพื้นที่การเกษตรยังเป็นการทำลายโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้ดินเสื่อมโทรม ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ทำให้ผลผลิตต่ำ คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งเกษตรกรยังต้องลงทุนในการปรับสภาพดินมากขึ้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การเผาไหม้ในภาคการเกษตรจะมีอยู่ 3 ส่วน ในส่วนของภาคกลางจะเป็นต่อซังข้าวที่ชาวนาเก็บเกี่ยวแล้ว อีกส่วนจะเป็นไร่อ้อย ซึ่งจะเหมือนกับภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือจะมีปัญหาในการเผาป่า ซึ่งปัญหาแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดก็ได้ส่งผลกระทบที่เหมือนกันและคล้ายกันกับมลภาวะ และสามารรามไปถึง PM.2.5 ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนที่ก่อให้เกิดมลภาวะมากขึ้น ทั้งสามส่วนคิดว่ามีความจำเป็นที่เราจะต้องมีการลดการเผาทุกส่วนให้น้อยลง แต่ในส่วนของภาคเหนือจะมีปัญหาอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นก่อนฤดูฝนที่เป็นหน้าแล้ง จะมีหลายหน่วยงานที่เข้าไปดูแลความมั่นคงของเราก็มีหน้าที่ส่วนหนึ่งในการที่จะเข้าไปช่วยในการเผาในพื้นให้ลดลง เพราะการเผาจะส่งผลกระทบต่อ ภาคการเกษตร สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรนำมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด และคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด เพื่อยกระดับการทำงาน ทั้งยังขอความร่วมมือประชาชนหากพบการเผาเศษวัสดุในพื้นที่การเกษตรให้แจ้งไปยังสายด่วนฉุกเฉิน 1784 สำหรับทุกพื้นที่ หรือ 1362 สำหรับพื้นที่ป่า