หนุ่มเครียดกินปลากระป๋องยี่ห้อดังอย่างอร่อย เคี้ยวเจอพลาสเตอร์ยาติดแผล โพสต์ลงเฟซบุ๊กเตือนประชาชน กลับถูกบริษัทแจ้งความเอาผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ตกใจบุกร้องศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช ขอความเป็นธรรม
เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (24 เม.ย.63) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเฉลิมรัตน์ ชุมนุ้ย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 4 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเพื่อนอีกคนเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมฯ เพื่อขอความเป็นธรรมเนื่องจากถูกบริษัทปลากระป๋องชื่อดังยี่ห้อหนึ่งขู่ฟ้องร้องเอาผิดทั้งทางอาญา และทางแพ่ง หลังได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อเตือนพี่น้องประชาชนเรื่องมีพลาสเตอร์ยาติดแผลอยู่ในปลากระป๋องยี่ห้อหนึ่ง
นายเฉลิมรัตน์ ได้แจ้งกับนางพัชร์ธนนันท์ ศรีเมือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ได้ซื้อปลากระป๋องมาจากร้านชำในหมู่บ้านมาทานกับข้าว ตอนตักกินคิดว่าเป็นหนังปลา พอเคี้ยวไปสักพักพบว่ามันเหนียวมากและเคี้ยวไม่ออก จึงดึงออกมาดูอย่างละเอียดพบว่าเป็นพลาสเตอร์ยาที่ใช้ติดแผลถึงกับอาเจียน จึงเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพปลากระป๋องและสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาได้เอาภาพลงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อต้องการเตือนให้ประชาชนได้รับทราบถึงวัตถุดังกล่าวอยู่ในปลากระป๋อง แต่ปรากฏว่ามีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง หลังจากนั้นถูกบริษัทปลากระป๋องโทรมาข่มขู่ต่างๆ นานา บอกให้ตนลบโพสต์แล้วลงขอโทษบริษัท เพราะทำให้บริษัทเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งหากไม่ทำตามที่เขาบอกเขาจะฟ้องร้อง และเขาได้แจ้งความไว้แล้วที่กรุงเทพ หลังจากนั้นตนได้ลบโพสต์ไป แต่ได้แคปหลักฐานเก็บไว้
“ตอนนี้เครียดมากเพราะทางบริษัทปลากระป๋องดังกล่าวให้ทนายและตำรวจโทรมาหาแล้วพูดจาข่มขู่ต่างๆ นานนา ไม่มีเจตนาที่จะเรียกเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องการเตือนในคนได้รับรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปลากระป๋องจริง และไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด แต่กลับมาถูกขู่ตลอด จึงมาขอความเป็นธรรม และยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ได้กุเรื่องขึ้น หลังจากโดนขู่หลายครั้งได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ร่อนพิบูลย์ รวมทั้งร้องไปยังสาธารณสุขจังหวัด”
และในวันนี้ (24 เม.ย.63) ได้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อต้องการความเป็นธรรมให้กับตนเอง เพราะลำพังตัวเองไม่ได้ร่ำรวยอะไร เอาความจริงมาพูด และคิดว่าตนเองไม่ผิด เพราะประสบกับตัวเองจริงๆ ว่ามีพลาสเตอร์ยาอยู่ในกระป๋องของปลากระป๋องจริง ไม่ได้ตั้งใจที่จะไปกลั่นแกล้งบริษัทให้เกิดความเสียหาย แต่ถูกบริษัทแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนไม่มีอะไรไปสู้กับบริษัทระดับประเทศ แต่ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง” นายธรรมรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามนายธรรมรัตน์ จะเข้าร้องเรียนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ในขณะที่นางพัชร์ธนนันท์ ศรีเมือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้และจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับนายธรรมรัตน์ โดยให้เขียนคำร้องรวมทั้งเก็บหลักฐานไว้เพื่อให้ผู้เกี่ยวทำการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไปด้วย.
นายเฉลิมรัตน์ ได้แจ้งกับนางพัชร์ธนนันท์ ศรีเมือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ได้ซื้อปลากระป๋องมาจากร้านชำในหมู่บ้านมาทานกับข้าว ตอนตักกินคิดว่าเป็นหนังปลา พอเคี้ยวไปสักพักพบว่ามันเหนียวมากและเคี้ยวไม่ออก จึงดึงออกมาดูอย่างละเอียดพบว่าเป็นพลาสเตอร์ยาที่ใช้ติดแผลถึงกับอาเจียน จึงเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพปลากระป๋องและสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาได้เอาภาพลงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อต้องการเตือนให้ประชาชนได้รับทราบถึงวัตถุดังกล่าวอยู่ในปลากระป๋อง แต่ปรากฏว่ามีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง หลังจากนั้นถูกบริษัทปลากระป๋องโทรมาข่มขู่ต่างๆ นานา บอกให้ตนลบโพสต์แล้วลงขอโทษบริษัท เพราะทำให้บริษัทเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งหากไม่ทำตามที่เขาบอกเขาจะฟ้องร้อง และเขาได้แจ้งความไว้แล้วที่กรุงเทพ หลังจากนั้นตนได้ลบโพสต์ไป แต่ได้แคปหลักฐานเก็บไว้
“ตอนนี้เครียดมากเพราะทางบริษัทปลากระป๋องดังกล่าวให้ทนายและตำรวจโทรมาหาแล้วพูดจาข่มขู่ต่างๆ นานนา ไม่มีเจตนาที่จะเรียกเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องการเตือนในคนได้รับรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปลากระป๋องจริง และไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด แต่กลับมาถูกขู่ตลอด จึงมาขอความเป็นธรรม และยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ได้กุเรื่องขึ้น หลังจากโดนขู่หลายครั้งได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ร่อนพิบูลย์ รวมทั้งร้องไปยังสาธารณสุขจังหวัด”
และในวันนี้ (24 เม.ย.63) ได้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อต้องการความเป็นธรรมให้กับตนเอง เพราะลำพังตัวเองไม่ได้ร่ำรวยอะไร เอาความจริงมาพูด และคิดว่าตนเองไม่ผิด เพราะประสบกับตัวเองจริงๆ ว่ามีพลาสเตอร์ยาอยู่ในกระป๋องของปลากระป๋องจริง ไม่ได้ตั้งใจที่จะไปกลั่นแกล้งบริษัทให้เกิดความเสียหาย แต่ถูกบริษัทแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนไม่มีอะไรไปสู้กับบริษัทระดับประเทศ แต่ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง” นายธรรมรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามนายธรรมรัตน์ จะเข้าร้องเรียนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ในขณะที่นางพัชร์ธนนันท์ ศรีเมือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้และจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับนายธรรมรัตน์ โดยให้เขียนคำร้องรวมทั้งเก็บหลักฐานไว้เพื่อให้ผู้เกี่ยวทำการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไปด้วย.