ชาวน่าน พากันแชร์โพสต์ พร้อมร่วมชื่นชม “หมออนามัย” รพ.สต.บนดอย มุมานะเดินทางข้ามเขา ข้ามลำห้วย ฝ่าเส้นทางแสนลำบาก มาตรวจชาวบ้านกักตัวบนดอย ป่วยเป็นไข้ถึงที่ หวังเพียงชาวบ้านได้รับบริการสุขภาพที่ดี มีความปลอดภัยจากความเสี่ยง หลังเพจ สื่อสารโควิด 19 น่าน ได้ออกมาเผยเรื่องเล่าชีวิตหมออนามัยกับการดูแลสุขภาพของผู้ที่กักตัวที่ รพ.สต.บนดอย ที่ห่างไกลจากความเจริญ โดยระบุข้อความว่า “ขอส่งกำลังใจก้อนโตๆ มอบให้หมออนามัย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องที่กักตัว 14 วัน ทุกท่านครับ โดยเรื่องเล่าชีวิตหมออนามัยกับการดูแลสุขภาพของผู้ที่กักตัว ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ สื่อสารโควิด 19 น่าน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการทำหน้าที่ของหมออนามัย และ เจ้าหน้าที่อสม ในพื้นที่ห่างไกล ถิ่นทุรกันดาร ใน ต.ภูคา อ.ปัว และต.น้ำพาง อ.แม่จริม ที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขา ข้ามลำห้วย เพื่อไปดูแล รักษา ตรวจ ให้คำแนะนำ ผู้ป่วย รวมถึงผู้ที่ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หลังถูกเลิกจ้างงาน และกลับมาอยู่บ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขา ใช้วิธีแยกกักตัวเองไปอยู่ที่ห้างไร่(กระท่อม)หุบห้วยลึกห่างไกลจากผู้คน (หากเป็นลูกสาวก็ให้กักตัวอยู่บ้านแล้วให้พ่อแม่ไปอยู่ห้างไร่แทน) อาศัยกระจัดกระจายอยู่ตามไหล่เขา และจะเลือกอยู่ใกล้ลำห้วยทำให้มีน้ำอาบน้ำใช้ น้ำกิน อาหารบางส่วนก็สามารถหาได้ในห้วย เช่น ปลา สัตว์น้ำอื่นๆ หัวปลีจากกล้วยป่า ข้าว และอาหารแห้งส่วนมากญาติก็จะนำมาเตรียมมาไว้ให้แล้วก่อนที่คนกักตัวจะเดินทางมาถึง เพื่อที่จะช่วยกันป้องกันไม่นำพาเชื้อโรคไปสู่คนอื่นๆในชุมชน โดย นายสมพงษ์ กันยะ หมออนามัยตำบลภูคา เล่าว่า จะไปกักตัวเองไกลแค่ไหน ทั้งหมออนามัย และเจ้าหน้าที่ ก็จะดั้งด้นไปหา แม้เส้นทางการเดินทางจะยากลำบากต้องใช้มอเตอร์ไซด์ขี่ลัดเลาะภูเขาที่สูงชันไปตามทางเดินเล็กๆ เป็นทางดินอันคับแคบคดเคี้ยว ที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางไปไร่ หากไม่ชำนาญทางก็ขับขี่ไปไม่ได้ พลาดพลั้งก็ดิ่งลงหุบเหวลึก หมดทางรถก็นำมอเตอร์ไซด์ไปจอดไว้ข้างทางแล้วลงเดินลัดเลาะตามไหล่เขาลงห้วยเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย แต่ทีมงานเหล่านี้ก็ไม่ย่อท้อ เพียงอยากให้ทุกคนปลอดภัย ปลอดโรค อีกทั้ง การทำงานไม่ได้มีแค่ 14 วัน แต่เป็นการทำงานทุกๆ วัน เพราะคนที่กลับบ้านมาไม่ได้มาพร้อมกัน ต่างคนต่างมา ทีมงานจึงต้องออกไปติดตามเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่กักกันตัวเองทุกวัน รายใดมีปัญหาหรือข้อสงสัยก็อาศัยการโทรศัพท์ถามไถ่ให้คำปรึกษากันไป แต่ในรายที่อยู่ตามหุบเขาหุบห้วยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์วิธีเดียวที่ทำได้คือการไปพบด้วยตนเอง นี่คือภารกิจบนดอยสูงท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ก็เล่นเอาทีมงานออกอาการหอบเหนื่อยกันบ้าง แค่พักก็หายเหนื่อย หายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อ ไปต่อไปเพื่อจุดหมายปลายทาง “คนน่านปลอดโควิด19”