จากสถานการณ์โควิด-19 เปิดจุดผ่านแดนรวม 4 แห่ง ในจังหวัดสงขลา สตูล และนราธิวาส ให้คนไทยในมาเลย์กลับประเทศ ย้ำต้องมีใบรับรองแพทย์ และขอหนังสือรับรองการเดินทางที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ทำให้แรงงานไทยแห่กลับเข้าประเทศหลังเปิดด่านพรหมแดนสุไหงโกลก วันที่ 5 พบว่าแรงงานบางส่วนถูกหลอกให้ทำเอกสารปลอม วันนี้ 22 เม.ย. 63 ที่ด่านพรหมแดนสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สำหรับบรรยากาศเปิดด่านรับคนไทยตกค้างในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดจุดผ่านแดนถาวรทั่วประเทศ 23 ช่องทางใน 21 จังหวัด แต่จำกัดจำนวนผู้ผ่านแดนด่านละ 100 คนต่อวัน เพื่อไม่ให้มีปัญหากับกระบวนการกักกันตัว (quarantine) ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การเปิดด่าน 4 วันที่ผ่านมา พบปัญหาจำนวนผู้เดินทางผ่านด่านพรมแดนที่ถูกต้องตามกฎหมายมีต่ำกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้ เพราะต้องมีเอกสารรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลไทยในมาเลเซีย มีใบรับรองแพทย์ว่ามีสุขภาพดีพร้อมเดินทาง หรือ fit to travel และมีชื่อตามคิวที่ลงทะเบียนเอาไว้ ทั้งยังต้องเดินทางถึงหน้าด่านก่อนเวลา 12.00 น. ทำให้แรงงานไทยในมาเลเซียจำนวนมากไม่สามารถจัดหาเอกสารได้ครบ เพราะเป็นกระบวนการที่มีค่าใช้จ่าย และเดินทางไม่สะดวก เนื่องจากทางการมาเลเซียสั่งปิดประเทศมานานก่อนไทย เพื่อสกัดโรคระบาด ทำให้แรงงานจำนวนมากไม่มีงานทำ และขาดรายได้ นายซูลกิฟลี โละมะ แรงงานไทยที่ไปทำงานร้านอาหาร (ร้านต้มยำ) ในประเทศมาเลเซีย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตัดสินใจเข้ามาแบบไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย เพราะว่าคนในมาเลเซียประสานว่าจะทำเอกสารให้แต่กลายเป็นว่าเอกสารที่ทำให้เป็นเอกสารปลอม เพราะว่าเค้าก็ไม่รู้เนื่องจากว่าบัตรก็มี โดนหลอกให้ทำเอกสารปลอมโดยมีนายหน้าติดต่อมาว่าสามารถทำเอกสารได้ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่รวมเข้าไปในค่าเดินทางราคา 2,000 บาท ทำให้ตนเองทำไปแต่พอมาถึงที่หน้าด่านรันตูปันยัง พบว่าไม่มีชื่อในรายชื่อที่ลงทะเบียนไว้ นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าเรือ ที่แพงกว่าปกติซึ่งปกติค่าเรือแค่ข้ามฟาก 20 บาทแต่ตนเองจ่ายถึง 200 บาททำให้วันนี้กลับเข้าประเทศไทยไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินไหนที่จะต้องจ่ายค่าปรับ 800 บาท แต่ก็ยอมเพราะว่ามารอตั้งแต่เมื่อวานนี้ 21 เมษายน ตนเองเพิ่งไปทำงาน ได้ไม่กี่วันยังไม่ทันได้ค่าแรงเลย แต่ก็ถูกทอดทิ้งเพราะว่านายจ้างไม่จ่ายค่าแรงแล้วถูกผลักให้กลับประเทศ ก็เลยคิดว่ากลับประเทศดีกว่าถึงอย่างน้อยเราก็ยังมีข้าวกินแม้ว่าจะถูกเจ้าหน้าที่กักตัว 14 วันแต่ก็ดีกว่าอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแต่ถ้าหากว่าวันข้างหน้าหลังจากสถานการณ์โควิดหมดไป ถ้าหากไม่มีงานทำก็จำเป็นอาจจะต้องกลับเข้าไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้านอีก