นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้ชวยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า มาตรการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนของรัฐบาลกำลังเดินหน้าไป ส่วนจะรวดเร็ว ทันการสำหรับช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจริงๆหรือไม่ ยังเป็นปัญหา แต่ปรากฎการณ์ที่เราเห็นคือ มีการฆ่าตัวตายของประชาชนเพิ่มมากขึ้น จะฆ่าตัวตายเพราะอะไรผมไม่สรุปล่ะ เพียงแต่เราเห็นข่าวแบบนี้มากขึ้น หากเราไม่วิเคราะห์ให้ถึงแก่น เราจะได้อ่านข่าวการฆ่าตัวตายของประชาชนมากขึ้นทุกวัน ในความเป็นจริง มีประชาชนที่เดือดร้อน"หลุดวงจร" ไปจากความช่วยเหลือของกระทรวงการคลังอีกเยอะ และที่หลุดไปนั้น คือคนที่ยากไร้จริงๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบของรัฐได้ ผมเลยแสดงความเห็นมาตลอดว่ารัฐบาลต้องมีหน่วยงาน สำหรับ"เก็บตก"ประชาชนที่"หลุดวงจร" ไปจากการได้รับความช่วยเหลือของรัฐ เป็นเหมือนการ "double check" หรือการตรวจสอบอีกครั้ง การเปิดให้อุธรณ์ของกระทรวงการคลังยังไม่ได้ผลหรอก สิ่งไหนที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มันละเอียดอ่อน บางครั้งต้องให้มนุษย์ด้วยกันคุยกันเอง การให้ระบบAI คุยกับมนุษย์มันพลาดได้ หากมีผู้หลุดวงจรไปสัก 500,000-1,000,000 ล้านคน ผมว่าความวุ่นวายจะดูไม่จืดเลย สำหรับคนไทยนั้น เสียงของผู้ทนทุกข์ทรมาน และเสียงของผู้ที่บอกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ยังดังสะเทือนใจและสะกดหัวใจของคนส่วนใหญ่ได้อยู่เสมอนะครับ ไม่งั้นเราไม่เห็นคนระดมทุนช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในแต่ละกรณีเป็นล้านๆบาทหรอก ดู"จ่าจำปา" เป็นตัวอย่างสิครับ โดนผู้บังคับบัญชาขัง 45 วัน เพราะทะเลาะกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประชาชนรู้สึกว่า"ไม่เป็นธรรม" ยังระดมทุนให้ตั้งหลายแสน นี่ถ้าไม่ปิดบัญชีเสียก่อนคงยังได้อีกเยอะล่ะ ที่ผมเขียนมายืดยาวเพราะผมยังยืนยันว่ารัฐต้องมีระบบ double check ที่มีประสิทธิภาพ อาจให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นี่แหละดำเนินการหรือกระทรวงไหนก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับคนจนหรือผู้เดือดร้อนดำเนินการ เสียงของคนจน ที่บอกว่า เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้เสียงจะแผ่วเบา แต่มันยังมีประสิทธิภาพกรีดลึกลงในหัวใจของแผ่นดินนี้ได้เสมอ