"เสธ.หมึก" พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จัดทำโครงการ "ปั่นในบ้าน ต้านโควิด" ซึ่งเป็นการปั่นจักรยานออนไลน์ หรือ E-Cycling อยู่ภายในบ้านของตัวเอง ผ่านแอปพลิเคชั่น "Zwift" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจการขี่จักรยาน ให้มาปั่นจักรยานภายในบ้านของตัวเอง เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสภาวะที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ พลเอกเดชา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนี้ได้จัดอย่างเป็นทางการมา 2 ครั้งแล้ว คือ นัดปฐมฤกษ์จัดขึ้นเมื่อวันมหาสงกรานต์ วันที่ 13 เม.ย. ในรูปแบบที่ให้นักปั่นทีมชาติไทยมาเป็นผู้นำกลุ่ม แล้วให้ประชาชนมาร่วมปั่นกลุ่มละ 50 คน ปรากกฏว่ามีผู้เข้าร่วมเกือบ 1,000 คน ส่วนครั้งที่ 2 เป็นการปั่นในรูปแบบแข่งขัน แบ่งเป็นกลุ่มนักกีฬาหญิงและชาย ซึ่งกลุ่มนักกีฬาหญิงจะให้นักกีฬาทีมชาติปั่นร่วมกับบรรดานักปั่นชื่อดังจากทีมต่าง ๆ ส่วนกลุ่มนักกีฬาชาย มีนักปั่นทีมชาติ แข่งขันกับทีมอาชีพ "ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม" และทีมจากชมรมจักรยานชื่อดัง มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ Live เฟซบุ๊กแฟนเพจของไทยพีบีเอส (Thai PBS) และของสมาคมกีฬาจักรยานฯ Thaicycling Association ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มียอดผู้ชมทางเฟซบุ๊กรวมมากกว่า 300,000 วิว ไม่รวมกับที่ชมผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และยูทูบ "เสธ.หมึก" กล่าวต่อไปว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ยังคงเดินหน้าทำโครงการ "ปั่นในบ้าน ต้านโควิด" ต่อไป โดยกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย. ซึ่งจะนำเอานักปั่นทั้งทีมชาติและบรรดานักปั่นเซเลบชื่อดัง ที่ได้เข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 19 เม.ย. มาร่วมปั่นกับประชาชนทั่วไป โดยแต่ละคนจะเป็นผู้นำกลุ่ม กลุ่มละ 50 คน ประชาชนทั่วไปสนใจอยากจะร่วมปั่นกับนักกีฬาทีมชาติหรือนักปั่นชื่อดังคนไหน สามารถไปลงทะเบียนขอเข้าร่วมได้ที่หน้าเฟซบุ๊กของนักปั่นแต่ละคน เช่น อยากปั่นกับ "บีซ" ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ก็ให้เข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊กของจุฑาธิป แล้วขอเป็นเพื่อน ซึ่ง จุฑาธิป จะลงประกาศนัดหมายการปั่นเอาไว้ จากนั้นก็แจ้งความจำนงค์ที่ช่องแสดงความคิดเห็นได้เลย โดย จุฑาธิป จะตอบรับทุกคนจนกว่าจะเต็มจำนวน 50 คน จึงขอเชิญผู้ที่สนใจมาร่วมโครงการนี้ เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ยังปลอดภัยจากการไปรับเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกบ้านอีกด้วย สำหรับผู้นำกลุ่มที่เป็นนักปั่นหญิงมีดังนี้ เป็นทีมชาติไทย 5 คน "บีซ" ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, "แพร" สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช, "องุ่น" กุรชา ไชยรินทร์, นาตาลี ปัญญาวัน, "พลอย" วรินทร เพ็ชรประพันธ์. นักปั่นเซเลบชื่อดัง 9 คน ได้แก่ "น้ำอิง" ณัฎฐา คล่องแคล่ว (ENKKU), "ฟ้าใส" นภัสสร ไชยกิจไพบูลย์ศรี (Sky Rider), "สอง" รวิรัฐ ศรีโสภา (Venn Cycling), "เฌอแตม" สไบทิพย์ ปินตาปลูก (Kitchen Queen), "ยุ้ย" วดี ศรีจารุพฤกษ์ (KOM KOM), "หวานหวาน" อรุณณภา พาณิชจรูญ (TCP), "กิ๊ฟท์" กุลพร เจริญสุข (การบินไทย), "มิ้ม" ปัณฑ์ชนิต พงศ์สถาพร (BG), "ดิว" อาริยา ชาญพิพัฒน์กุล (Venn Cycling) ส่วนกลุ่มนักปั่นชาย ผู้นำปั่น ประกอบด้วย ทีมชาติไทย 2 คน ได้แก่ "ทีเจ" จาย อังค์สุธาสาวิทย์ และ "แบงค์" ร้อยตำรวจโท เสฏฐวุฒิ ยอดสุวรรณ, ทีมอาชีพ "ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม" จำนวน 8 คน ประกอบด้วย "วุฒิ" สิบตรี วราวุฒิ สิริรณชัย, "เฟรม" ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, "ดอย" สิบตำรวจตรี นวุติ ลี้พงษ์อยู่, "บาส" จ่าอากาศโท ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์, "มะตูม" จ่าอากาศเอก พีระพล ชาวเชียงขวาง, "ปาง" ธนาวุฒิ สนิกวาที, "ป๋อม" ร้อยตำรวจโท ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, "อเล็กซ์" อริยะ พูลสวัสดิ์ นักปั่นทีมชาติลาว พร้อมด้วย ทีมเทรนนิ่ง แคมป์ ปีเตอร์ (TCP) 2 คน ได้แก่ ปีเตอร์ พูลี่ย์ กับ จตุรภัทร ตันธนวงศ์ และทีมรู้ใจ 3 คน ได้แก่ วาเลนตินี่ มิดีย์ นักปั่นชาวฝรั่งเศส, กุมุท ลิ้มวัฒนชัย และ เฉลิมพล กล้าหาญ ด้าน "โค้ชตั้ม" พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้ฝึกสอนจักรยานทีมชาติไทย หนึ่งในคณะทำงานโครงการ "ปั่นในบ้าน ต้านโควิด" กล่าวว่า การปั่นออนไลน์ E-Cycling ผ่านแอปพลิเคชั่น Zwift ในวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย. กำหนดเส้นทางปั่นในลูป Watopia Figure 8 ซึ่งเป็นเส้นทางเรียบปั่นสบาย ๆ ไม่มีปั่นขึ้นเขา ในระยะเวลา 45 นาที เริ่มปั่นเวลา 18.00 น. โดยมีการ Live ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของสมาคมกีฬาจักรยานฯ Thaicycling Association ตั้งแต่เวลา 17.30 น. โดยจะมีการแนะนำเทคนิคต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำอุปกรณ์ราคาที่ไม่แพงสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มปั่น พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้สนใจร่วมโครงการ "ปั่นในบ้าน ต้านโควิด" ที่มีกำลังซื้อสูง อาจจะซื้อสมาร์ท เทรนเนอร์ มาใช้ เพราะสามารถต่อเข้ากับแอปพลิชั่น Zwift ได้เลย แต่ถ้าเป็นนักปั่นมือใหม่และมีทุนทรัพย์ไม่มาก อาจจะเริ่มต้นซื้ออุปกรณ์ที่ราคาไม่แพงมากนัก อย่างแรกที่ต้องซื้อคือเทรนเนอร์แบบจับดุมหลัง ราคาขายในท้องตลาดระหว่าง 2,500-3,000 บาท หรือจะเป็นแบบ 3 ลูกกลิ้งก็ได้ แต่ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่หัดปั่น อย่างที่สองคือ เซ็นเซอร์วัดความเร็วที่มีบลูทูธในตัว เพื่อเอาไว้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โน๊ตบุ๊ค หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ราคาประมาณ 800-1,000 บาท หรือหากใครมีตัววัดความเร็วแบบ ANT+ อยู่แล้ว ก็ต้องซื้อ USB ANT+ ที่เป็นตัวรับสัญญาณที่ต่อกับโน๊ตบุ๊ค หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่จะเชื่อมกับโทรศัพท์มือถือได้เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น "โค้ชตั้ม" กล่าวอีกว่า จากนั้นให้เข้าไปที่แอปพลิเคชั่น Zwift ซึ่งถ้าล็อกอินกับอุปกรณ์แท็บเล็ต หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จะทดลองปั่นได้ฟรี 7 วัน หากชอบก็สมัครสมาชิกกับทาง Zwift แต่ต้องจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ 14.99 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 500 บาท ส่วนผู้ที่ล็อกอินจากโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต จะปั่นฟรีแค่ 25 กม. ถ้าชอบก็ไปกดจ่ายค่าสมาชิก จะได้รับสิทธิ์ปั่นฟรี 7 วันอีกเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายในบ้านด้วยการขี่จักรยาน ตามโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพง ๆ ก็สามารถออกกำลังกายได้ ในเรื่องของอุปกรณ์ก็ลงทุนครั้งเดียว ส่วนค่าสมาชิกอาจจะถูกกว่าค่าสมาชิกในฟิตเนสทั่ว ๆ ไปที่เปิดอยู่ทั่วประเทศเสียอีก สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ "ปั่นในบ้าน ต้านโควิด" สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th และที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association หรือหากมีข้อสงสัยประการใดสามารถส่งคำถามมาที่ "กล่องข้อความ" ในเฟซบุ๊ก โดยจะมีแอดมิน มาตอบคำถามให้ความกระจ่างทุกคำถาม