รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune ระบุว่า... #คนออกมาเดินตลาดก็มีเหตุผล เมื่อวานนี้ โพสต์ข้อความ “ใจตกถึงตาตุ่ม เมื่อเห็นคนออกมาเดินตลาดนัด” .... พอกลับมาคิดอีกที เราก็แค่ ตอบสนอง ตาม เวทนา และ สังขาร ด้วยสัญญาของเราที่มีอยู่ คือ วิตกว่า ถ้าคนเหล่านี้มีโรค(สัญญา คิดไว้ก่อนว่าทุกคนมีโอกาสมีโรคแต่ไม่มีอาการ) แล้วทำให้คนติดโรคเพิ่มขึ้น(สังขารปรุงแต่ง) เลยเกิดอาการเสียใจ กังวลใจ (เวทนา เพราะเราอุตส่าห์ อยู่บ้าน ตั้งหลายสัปดาห์) แต่ถ้ามาดูแล้ว สถานการณ์ ที่คนที่เดินตลาดจะมีโรค (สัญญา) ไม่ได้มากเหมือนตอนแรกแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ ไม่มีอาการ และ อยู่กับบ้าน มาเกิน 14 วันแล้วเป็นส่วนใหญ่ ทุกวันนี้ คนที่พบโรครายใหม่ คือ คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับ คนที่เป็นโรคเดิม ดังนั้น ข้อสันนิษฐานว่า ทุกคนที่ออกมาเดิน อาจจะมี โรคอยู่กับตัว (ในประเทศไทย ที่ปิดกั้นคนเข้าออกมาแล้ว 3 สัปดาห์) จึงมีโอกาสเป็นจริงไม่มากนัก ... ข้อเท็จจริงไม่เหมือนกับ เมื่อปลายเดือนมีนาคม ผมจะลองเทียบกับตัวอย่างทางการแพทย์ ดูนะครับ.... ถ้าเท้าไปเหยียบเสี้ยน ที่สกปรก แล้วเชื้อโรคเข้าไปที่ฝ่าเท้า วันสองวันแรก ก็ไม่ได้ไปสนใจมัน แต่พอผ่านไป 3-4 วันเริ่มเจ็บ เท้าบวม เดินไม่ได้ และ ทำท่าจะลุกลาม เป็นไฟลามทุ่ง บริเวณอักเสบแดงขึ้นมาถึงใต้เข่า และ กำลังจะขึ้นมาถึงต้นขา ... ด้วยความเป็นแพทย์ ย่อมรู้ว่า เชื้อโรคตัวนี้ ถึงจะ ธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา หากไม่รีบรักษา อาจจะมีอันตรายถึงติดเชื้อในกระแสเลือด จึงรีบเข้า รพ รักษา ให้ยาปฏิขีวนะ นอนพัก ยกขาสูง ทำแผลที่เท้า ... เมื่อเวลาผ่านไป 4-5 วัน อาการปวดก็ดีขึ้น ตอนนี้ ผ่านมา 2 สัปดาห์ การอักเสบลดลง ไฟลามทุ่งลดลง จนเหลือแต่ ตุ่มหนองที่ยังมี เสี้ยนฝังอยู่ เป็นหนองอักเสบที่ฝ่าเท้า ไม่มีไข้ ความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อในกระแสเลือดหมดไป.... ณ จังหวะนี้ ผม ซึ่งเป็นคนไข้ จะยังนอนอยู่บนเตียงไหมครับ หรือ จะเริ่มลงมาเดิน มาเข้าห้องน้ำเอง มากินข้าวเอง มาอาบน้ำเอง ... แต่ทั้งนี้ และ ทั้งนั้น ต้องมีความรู้ว่า การลงมาเดินของผม จะไม่ทำให้ แผลอักเสบเพิ่มขึ้น ไม่ทำให้เกิดไฟลามทุ่งขึ้นมาใหม่ ...จะยังไม่หยุดยาปฏิชีวนะ ให้จนครบขนาด ถ้าดีจนไม่ต้องใช้ยาฉีด ก็ใช้ยากินแทน ... แต่จะยังไม่วางใจ หาก ไม่ได้ผ่าตัด บ่งเอา เสี้ยนที่ติดอยู่ออก ... เมื่อควบคุมการอักเสบได้แล้ว ก็รอจังหวะในการผ่าตัดเอาเสี้ยน ออก และ รอแผลหาย ก็จะกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เวลานี้ ซึ่งอาการอักเสบดีขึ้นมากแล้ว เราก็สามารถลุกขึ้นมาช่วยตัวเองได้ แต่ต้องรู้จักวิธีปฏิบัติตัวที่ถูก ไม่ลงน้ำหนักเหยียบไปบนจุดที่เป็นหนอง ถ้าเดินแล้ว เริ่มเมื่อย ต้องนั่งพัก ยังต้องกินยาปฏิชีวนะอยู่ .... คล้ายกันครับ ถ้าเรามองว่า วันนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่เรายังจะต้องทำ อาจจะไม่ไต้องอยู่บ้าน แต่ ยังมีกระบวนการต่างๆ ที่ต้องทำ เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ กินร้อน ช้อนตัวเอง ไม่นั่งรวมกลุ่ม งดกิจกรรมกลุ่ม รักษาระยะห่างในที่ชุมชน และที่สำคัญคือ วัดไข้ หรือ เมื่อมีอาการ ต้องรายงานตัวกับแพทย์ และ หากติดโรค ต้องแจ้งคนรอบตัวใกล้ชิดให้พักอยู่กับบ้าน ไม่เสี่ยงออกไปแพร่เชื้อ .... นี่เป็นแค่วิธีคิดนะครับ ... ช่วยคิด เพราะ คนออกมาเดินตลาดก็มีเหตุผล แต่ต้องรู้จักวิธีปฏิบัติตัว และ ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น ต้องเคร่งครัดในวิธีปฏิบัติ เราจึงจะไม่มีโรคกลับมาลุกลาม ไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือดอีกครับ