14 จุดค่าฝุ่นยังโซนส้มเริ่มกระทบสุขภาพ สูงสุดยังเป็นที่เชียงดาว เผยสถานการณ์ไฟพื้นที่ภาคเหนือวางใจไม่ได้ ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อ ขณะได้เห็นความช่วยเหลือเกื้อกูลของคนไทยที่ส่งต่อกัน เมื่อชาวดอยเดือดร้อนไฟป่า ชาวพื้นราบ ได้ระดมสิ่งของ-อุปกรณ์เข้าช่วย และเมื่อชาวเมืองเริ่มเดือดร้อน ชาวเขาได้ส่งผักส่งข้าวมาช่วย กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือประจำวันที่ 21 เม.ย.63 เวลา 06.00 น. พบว่าเช้านี้ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดย 14 พื้นที่ยังมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) สูงสุดที่ ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 76 ไมโครกรัมฯ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ด้าน WWW.IQAIR.COM ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษ โดยรายงานแบบเรียลไทม์ วันที่ 21 เม.ย.63 เวลา 07.00 น. โดยเช้านี้เมืองเชียงใหม่ อยู่ในลำดับที่ 2 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 162 US AQI GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ระบุภาพถ่ายจากดาวเทียมระบบ MODIS ทั้งประเทศ วันที่ 20 เม.ย. 2563 เวลา 11.08 น. ตรวจพบค่า PM 2.5 ในระดับที่มีค่าคุณภาพอากาศดี (สีเขียว) ปกคลุมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันตก ไปจนถึงภาคใต้ สลับกับคุณภาพอาศปานกลาง (สีเหลือง) ทั้งนี้บริเวณภาคเหนือคุณภาพอากาศวันนี้อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในบริเวณตอนบนของภาค ส่วนภาคเหนือตอนล่างส่วนใหญ่พบคุณภาพอากาศปาน แต่อย่างไรภาคเหนือยังคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไปเพื่อป้องกัน PM 2.5 ไม่ให้หวนกลับมาอีก ขณะที่เพจ สายใต้ ออกรถ ซึ่งที่ผ่านมาได้ระดมกำลังและเป็นช่องทางรวบรวมอุปกรณ์ช่วยการดับไฟป่าทั้งภาคเจ้าหน้าที่และภาคประชาชนได้โพสต์ระบุ ยังคงติดตามพื้นที่ที่มีไฟ ที่ส่วนใหญ่ได้รับอุปกรณ์ไปจากพวกเราบางส่วนแล้ว สถานการณ์ไฟที่ยังเกิดขึ้นเนืองๆนั้น ทำให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ยังวางใจไม่ได้ พวกเรามีหน้าที่คอยเติมของ เติมเสบียง อะไรที่ขาดไป เราวิ่งไปเติมให้ และแน่นอนว่าพวกเรา #สายใต้ออกรถ และ ป่าเขา ลมหายใจเรา กำลังจัดซื้อเครื่องเป่าลมล็อตใหญ่มากระจายต่อให้ทั้งถึงทุกหมู่บ้านป่าดิบชื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไป...ที่แน่ๆ ฝนยังตกไม่ทั่วฟ้า หลายพื้นที่ยังแห้งเหือด เสี่ยงต่อการไฟลุกทุกนาที” ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ มูลนิธิสืบสานล้านนา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Chatchawan Thongdeelert ระบุ ฝุ่นควันpm2.5ในสถานการณ์covid19 แม้จะต้องช่วยกันดับไฟที่หนักมากในปีนี้ แม้จะถูกมองเป็นจำเลยเผาป่า ปีนี้พี่น้องในเมืองก็ระดมอาหาร อุปกรณ์ดับไฟไปช่วยพี่น้องบนดอย ถึงเวลาคนในเมืองเดือดร้อนก็ระดมข้าวระดมผักมาช่วยกัน เห็นความงอกงามของจิตสำนึกต่อการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การช่วยเหลือเกื้อกูลกันยามยากลำบาก ประทับใจครับ” ภาพจากเพจ สายใต้ออกรถ