“จุรินทร์”เจาะห้างโมเดิร์นเทรด นำเกษตรกรทำสัญญาขายผลไม้ 16,700 ตัน 762 ล้านบาท พร้อมสั่งพาณิชย์ทั่วประเทศทำหน้าที่เซลล์แมนจังหวัด ขายผลไม้ให้เกษตรกร เมื่อวันที่ 20 เม.ย.63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ตรวจเยี่ยมTops market ในห้างเซ็นทรัล ตามโครงการความร่วมมือระบายสินค้าเกษตร-ผลไม้ กับห้างสรรพสินค้าที่ Tops market สาขาแจ้งวัฒนะ โดยนายจุรินทร์ ใช้เวลาช่วงเช้าของวันนี้ตรวจเยี่ยมโครงการความร่วมมือเชื่อมโยงและกระจายสินค้าเกษตร-ผลไม้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด ซึ่งมีทั้งวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงปลอดสารพิษเพื่อการส่งออก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี สหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตร จังหวัดตราดวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออกอำเภอบางแพจังหวัดราชบุรีกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์วิถีธรรมชาติจังหวัดกำแพงเพชรและเกษตรกรจังหวัดนนทบุรี สุโขทัยอุทัยธานี นครปฐม สมุทรสาครสุพรรณบุรี ยะลาและอื่นๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความกลุ่มใจของกลุ่มเกษตรกรที่ได้มีโอกาส สินค้าเกษตรเข้าร่วมรายการในห้างสรรพสินค้าใหญ่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือนี้เกิดจากนโยบายที่ได้ทำข้อตกลง MOU เมื่อวันที่ 9 มี.ค.63 ในทุกห้างสรรพสินค้า โดยหลักการร่วมมือกัน “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อร่วมมือกันทำงานให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพจากเกษตรกรและกระทรวงพาณิชย์ช่วยระบายสินค้าทางการเกษตรไปยังตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับระยะเวลานี้ที่จำเป็นต้องเร่งทำเป็นกรณีพิเศษคือเรื่องผลไม้ ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้วจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนถัดจากนี้ไป โดยการเตรียมการเรื่องตลาดผลไม้นั้นได้มีการประชุมร่วมกันกับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ล้ง สหกรณ์การเกษตร กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรผู้ทำผลไม้แปรรูป และผู้ส่งออกร่วมกัน โดยในช่วงที่ผ่านมาเราต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องปรับแผนงานทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนี้เราได้ข้อสรุปร่วมกันว่าสำหรับผลไม้นั้นจะต้องช่วยกันดำเนินการนอกจากทางด้านการผลิตที่ผลไม้ไทยถือว่ามีคุณภาพมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งทางด้านการตลาดต้องดำเนินการทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกันต้องดำเนินการช่วยระบายผลไม้ทั้งในส่วนตลาดออฟไลน์ และตลาดออนไลน์ควบคู่ไปด้วยกัน โดยเฉพาะสำหรับตลาดต่างประเทศขณะนี้ประสบปัญหาอยู่ว่าเรื่องผลไม้ในภาพรวมเราจะต้องส่งออกตัวสำคัญร้อยละ 60 ต้องปรับมาเป็นตลาดในประเทศเพื่อช่วยชาวสวนเพิ่มให้มากขึ้นและส่วนของตลาดออนไลน์ในสัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงหลายแพลตฟอร์มเพื่อนำผลิตผลของเกษตรกรขึ้นไปบนออนไลน์เพื่อที่จะได้ช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับเกษตรกรแต่สำหรับตลาดออฟไลน์นั้น ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมืออย่างดีกับตลาดค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ ทั้งนี้ได้ประชุมร่วมกับสมาคมค้าส่งค้าปลีกสินค้าเกษตรไทยและสมาคมตลาดสดในการช่วยระบายผลไม้ไปยังตลาดในประเทศที่ตลาดไท อีกทั้งใช้ตลอดค้าส่งอันที่สองเราใช้ตลาดในท้องถิ่นพาณิชย์จังหวัดจะประสานกับเกษตรกรเพื่อช่วยระบายผลไม้ในประเทศในจังหวัดต่างๆให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ได้สั่งการให้เตรียมการที่จะนำสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตผลไม้ทั่วทั้งประเทศที่กระทรวงเกษตรส่งรายชื่อมาให้มีทั้งหมด 114 สหกรณ์ด้วยกันต้องประชุมร่วมกันกับพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัดเพื่อให้พาณิชย์จังหวัดไปสำรวจตลาดที่ตนเองรับผิดชอบและทำการสั่งซื้อเพื่อที่จะไประบายในจังหวัดของตัวเองช่วยให้ลองกองจากนราธิวาส สามารถขายที่อุบล ที่อีสานที่ภาคเหนือที่กรุงเทพได้ช่วยให้มะม่วงจากอีสานจากภาคเหนือมาขายกรุงเทพภายภาคหน้าอื่นได้สลับกันโดยพาณิชย์จังหวัดจะเป็นสื่อกลางทำหน้าที่เซลล์แมนจังหวัดขายผลไม้ให้เกษตรกร ส่วนการร่วมมือกับโมเดิร์นเทรดต่างๆมีการทำ MOU ร่วมกันเมื่อวันที่ 9 มี.ค.63และที่มาที่ท็อปส์วันนี้เกิดจาก MOU ที่เราได้ลงนามร่วมกันที่จะช่วยเป็นแหล่งระบายผลไม้ให้กับเกษตรกรซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากทั้งบิ๊กซีโลตัส เดอะมอลล์ แม็คโคร ท็อปส์ มาร์เก็ต ที่มาเยี่ยมวันนี้ ขอบคุณท็อปส์ด้วยที่เป็นหนึ่งในสี่โมเดิร์นเทรดใหญ่ในการที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์โดยได้ทำสัญญา 40 สัญญา เพื่อระบายผลไม้จากหลายจังหวัดทั่วประเทศซึ่งช่วยให้สามารถขายผลไม้จากสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศได้ถึง 16,700 ตันและมีมูลราคา 762 ล้านบาทสำหรับความร่วมมือที่วันนี้ซึ่งท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ช่วยระบายในหลายสาขาของท็อปส์ช่วยให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ได้มีโอกาสในการระบายผลไม้ของตนเองผ่านโมเดิร์นเทรดขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทางท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตในวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ มีนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆได้ร่วมกันกำหนดมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2563 ออกมา 3 มาตรการประกอบด้วย มาตรการที่ 1 ส่งเสริมการซื้อขายผลไม้ผ่านตลาดข้อตกลง โดยมีการทำข้อตกลงระหว่าง Tops Market/ The Mall / Makro/ Lotus / Big C กับสถาบันเกษตรกรจากจังหวัดเชียงใหม่ ลําพูน น่าน สุโขทัย ตราด จันทบุรี กว่า 40 สัญญา โดยมีผลไม้ 9 ชนิดได้แก่ ส้มเขียวหวาน ลําไย ลิ้นจี่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สละ และสับปะรด ปริมาณรวม 16,699.30 ตัน มูลค่ารวมกว่า 761.988 ล้านบาท ขณะที่มาตรการที่ 2 เพิ่มช่องทางการจัดจําหน่าย โดยจับมือกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาจํากัด(CPN) จัดพื้นที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ให้เกษตรกร จําหน่ายผักและผลไม้ให้กับผู้บริโภคโดยตรงผ่านกิจกรรม “ตลาดผลไม้รวมใจ” ระหว่างวันที่ 15-30 เม.ย.63 โดยมีเซ็นทรัล 5 สาขา (ประกอบด้วย เวสเกต /ลาดพร้าว / พระราม 2/พระราม3/อิสวิลล์)และมีกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วม 14 กลุ่ม (พะเยา /อุตรดิตถ์/ พิจิตร/ ศรีสะเกษ/ อุดรธานี /ลพบุรี / จันทบุรี/ นครปฐม / ราชบุรี/ สมุทรสาคร / ปทุมธานี / ปัตตานี) ส่วนมาตรการที่ 3 มาตรการรณรงค์การบริโภคในประเทศ เชิญชวนให้ประชาชนในประเทศบริโภคผลไม้ไทยตามฤดูกาล คนไทย ได้บริโภคผลไม้เกรดส่งออก รสชาติอร่อย ในราคา เหมาะสมและภายใต้ ความร่วมมือการบริหารจัดการผลไม้ปี 2563 และการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ COVID-19 ห้างท็อปส์ได้มีมาตรการเกษตรกรทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดย ช่องทางออฟไลน์ ท็อปส์รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปทั่วประเทศ จาก 1,170 ชุมชน 24,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ สินค้าเกษตรกว่า 9,000 รายการ และช่องทางออนไลน์ สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.tops.co.th และแอปพลิเคชั่น Grab ครอบคลุมพื้นที่บริการ 41 จังหวัดซึ่งจากสถานการณ์ COVID-19 พบว่า ผู้บริโภคนิยมสั่งซื้อผัก ผลไม้ อาหารสดเพิ่มมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์