เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมายังรัฐสภาเพื่อดำเนินการแก้ไขชื่อกองทุนของรัฐบาลที่ใช้สำหรับต่อสู้กับโควิด 19 ให้ถูกต้อง เพื่อให้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ดำเนินการหักเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของตนเองประมาณ 36 งวดเป็นเงินประมาณ 4 ล้านบาทเข้ากองทุน ส่วนตัวขอชื่นชมแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดให้ผู้บริหารลดเงินเดืน เพื่อนำเงินไปสู้กับโควิด แต่คิดว่าเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอ โดยส่วนตัวคิดว่าจะต้องดำเนินการเพิ่มเติมอีก 3 มาตรการ ได้แก่ 1.ให้รัฐบาลออกพันธบัตร เพื่อให้ประชาชนนำเงินมาซื้อพันธบัตร 2.หักเงินเดือนข้าราชการบางส่วนเพื่อนำเงินมาซื้อพันธบัตรของรัฐบาล ซึ่งในประเด็นนี้ต้องมีเงื่อนไขว่าข้าราชการคนใดมีภาระหนี้สินแต่ที่ถูกหักเงินเดือน รัฐบาลจะต้องมีมาตรการที่ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้มาทวงหนี้ทันทีอย่างเด็ดขาดเป็นเวลา 6 เดือน และ 3.การนำเงินที่ได้มาจากการทุจริตเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทั้งหมดเพื่อให้เพื่อรัฐบาลได้งบประมาณมากพอในการต่อสู้กับโควิดและช่วยประเทศในทางเศรษฐกิจในภาวะวิกฤตเช่นนี้ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางของรัฐบาลในการหารือกับมหาเศรษฐีของไทยนั้น คิดว่ามีความสำคัญเพราะหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนย่อมไม่มีเงินจะนำมาซื้อสินค้าของเจ้าสัว ดังนั้น แนวทางทั้งหมดนี้ควรต้องดำเนินการควบคู่กันไปเพื่อให้รัฐบาลมีเงินเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ