บอร์ด CCP เคาะเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เตรียมพิจารณาวันประชุมผู้ถือหุ้นใหม่ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย เผยระยะสั้นยังไม่ได้รับผลกระทบ ความต้องการใช้คอนกรีตแนวโน้มดี เดินหน้าตามแผนธุรกิจ และติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติเลื่อนวันและวาระการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมกำหนดจัดวันที่ 28 เมษายน 2563 เวลา 10.00 น.ที่บ่อทอง โรงแรมชลอินเตอร์ ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติให้ยกเลิกวาระการเสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ยกเลิกวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งเดิมกำหนดไว้เป็นวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 และยกเลิกกำหนดวันจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ซึ่งเดิมกำหนดไว้เป็นวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 โดยคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดวันประชุมและระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 รวมทั้งพิจารณากำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 (Record Date) ทางบริษัทจะพิจารณาในการประชุมช่วงเดือน พฤษภาคม 2563 อีกครั้ง เนื่องจากหากสถานการณ์ไวรัสมีความยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินของบริษัทในอนาคต จึงได้พิจารณาให้บริษัทสำรองกระแสเงินสดไว้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน “สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (“COVID-19”) ในประเทศไทยมีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้พิจารณาความจำเป็นในการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการรวมกลุ่มกันของคนหมู่มาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นและกระจายสู่บุคคลทั่วไปโดยง่าย บริษัทตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของท่านผู้ถือหุ้นและทีมงานทุกฝ่ายที่จะเข้าร่วมประชุมจึงเห็นสมควรให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน” อย่างไรก็ตามการเลื่อนการประชุมดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้ง ในระยะเวลาอันสั้นนี้ การแพร่ระบาดยังไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงาน เนื่องจากความต้องการใช้คอนกรีตยังมีแนวโน้มดี โดยเฉพาะดีมานด์จากการลงทุน EEC และบริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจ ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังผลกระทบต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาประกาศจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และมาตรการอื่นใดของภาครัฐเป็นสำคัญ เพื่อรับมือป้องกันและปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป