พณ.เผยโควิด-19 ทำความต้องการบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุเจลล้างมือพุ่ง เผย 2 เดือน ส่งออกโต 19 % ตลาดจีนโตสูงสุด 175% หนุนผู้ประกอบการคว้าโอกาส เร่งใช้เอฟทีเอสร้างแต้มต่อขยายส่งออก นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการเจลและสเปรย์แอลกอฮอล์ เพื่อทำความสะอาดและป้องกันตนจากการแพร่กระจายของโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สินค้าบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกสำหรับบรรจุเจลล้างมือ เช่น ขวดจากพลาสติก จุกฝาครอบพลาสติก หัวปั๊ม และขวดหัวสเปรย์ มีความต้องการสูงขึ้นตามไปด้วย โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ไทยส่งออกบรรจุภัณฑ์พลาสติกรวม 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯขยายตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 กว่า 19% โดยจีนขยายตัวมากที่สุดถึง 175% รองลงมาได้แก่ สหรัฐฯขยายตัว 163% และอาเซียนขยายตัวถึง 22% ซึ่งอาเซียนยังคงเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาด 40% ของการส่งออกทั้งหมด รองลงมาได้แก่ ญี่ปุ่นส่วนแบ่งตลาด 21% และจีนส่วนแบ่งตลาด 12.5% สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ได้แก่ ขวดปั๊มขยายตัวถึง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 มีสัดส่วนการส่งออก 14% เมื่อเทียบกับการส่งออกบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกทั่งหมดของไทย รองลงมาได้แก่ ฝาหรือจุกครอบขยายตัวร้อยละ 25 สัดส่วนการส่งออก 47% และขวดสเปรย์ขยายตัว 13% สัดส่วนการส่งออก 6% ทั้งนี้แนวโน้มความต้องการบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นโอกาสทองในการขยายการส่งออกบรรจุภัณฑ์พลาสติก โดยผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เพื่อเพิ่มแต้มต่อในการแข่งขันทางการตลาดได้ เนื่องจากไทยมีเอฟทีเอ 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ โดยมี 17 ประเทศได้แก่ สมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกงได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับใส่เจลล้างมือข้างต้นแล้วทุกรายการ มีเพียงอินเดียที่คงภาษีนำเข้าขวดพลาสติก ฝาจุกครอบพลาสติกและขวดปั๊ม 10% และขวดสเปรย์ 7.5% สำหรับปี 2562 ไทยเป็นผู้ส่งออกบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกประเภทขวด ฝาครอบ ขวดปั๊ม และขวดสเปรย์ เป็นอันดับ 9 ของโลก โดยมีมูลค่าส่งออกรวม 252 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่งออกสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกไปยังประเทศที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย 18 ประเทศ คิดเป็น 83% ของการส่งออกบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดของไทย