ยะลา นายอำเภอเบตง เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แล ะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเดินทางมารับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ผ่านด่านเบตง ย้ำอำเภอเบตงเน้นมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ขณะที่แรงงานไทยจำนวน 20 คนที่ยื่นเอกสารเดินทางกลับ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าแรงงานอีก 13 คนไม่มีใบรับรองแพทย์จึงต้องเดินทางกลับเพื่อยื่นขอใบรับรองแพทย์ ใหม่ เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 18 เมษายน 2563 พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เบตง หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมารับแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียเดินกลับโดยเฉพาะเข้าทางด่านเบตง จะจำกัดให้เข้า วันละ 50 คน ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2563 เป็นต้นไป พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า โดยในวันนี้ตามที่เอกสารแจ้งมาจะมีแรงงานและนักศึกษา เดินทางรอบแรกจำนวน 20 คน แต่จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าในจำนวน 13 คนมีเอกสารไม่ครบโดยเฉพาะใบรับรองแพทย์ จากประเทศต้นทาง ส่วนอีกจำนวน 7 คน ตรวจสอบมีเอกสาร ใบรับรองแพทย์ ครบถ้วน ซึ่งแรงงานและนักศึกษาที่เดินทางกลับมาในวันนี้ ได้ทำงานและศึกษา อยู่ที่ รัฐปีนัง รัฐเคดาห์ และ รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย จากการตรวจสอบของ จนท.ตม.เบตง ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบของ ตม.เบตงแล้ว จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ตำรวจ ทหาร ตชด.445 บูรณาการในการเตรียมความพร้อม เช่น การจัดทำประวัติของแรงงาน การตรวจคัดกรองโรค และการจัดรถโดยสารเพื่อไปยังสถานที่กักตัวที่เตรียมไว้ ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยแรงงานรับจ้างที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดยะลาและพื้นที่ใกล้เคียง ให้ส่งตัวไปยังสถานที่กักตัวที่เตรียมไว้ภายในวันนี้ ส่วนแรงงานที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ภาคอื่นให้นำมากักไว้ชั่วคราวที่อาคารหอพักสถาบันราชภัฎยะลา สาขาเบตง ก่อนส่งตัวกลับภูมิลำเนาเนื่องจากยังไม่ทราบจำนวนตัวเลขแรงงานที่แน่ชัดที่เดินทางเข้ามาทางด่านเบตง พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง กล่าวอีกว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า ได้แจ้งมาให้ทางจังหวัดต่างๆที่มีชายแดนทั่วประเทศทราบว่า จะมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศจะเดินทางเข้ามาในวันที่ 18 เมษายน 2563 นี้ ซึ่งจังหวัดภาคใต้มีแรงงานไทยเดินทางผ่านด่านสุไงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ด่านเบตง จังหวัดยะลา ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา และด่านตำมะลัง กับด่านวังประจัน ของจังหวัดสตูล โดยจะเดินทางผ่านจังหวัดละ 100 คนต่อวัน และด่านเบตง 50 คนต่อวัน โดยได้เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในวันนี้ สำหรับกลุ่มแรงงานที่จะเดินทางเข้าในพื้นที่นั้น จะต้องมีใบรับรองแพทย์ ได้รับใบรับรองจากสถานทูตหรือสถานกงสุล ประเทศมาเลเซีย และรายชื่อที่รับรองจากกระทรวงต่างประเทศ เป็นสำคัญ ซึ่งตอนนี้ได้กำหนดให้ทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะต้องถูกนำไปกักตัวตามระบบ โดยอำเภอเบตงได้เตรียมสถานที่กักตัวตามภูมิลำเนาของกลุ่มแรงงานไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่ได้มีการตรวจคัดกรองโรคแล้วระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องมีการกักตัวไว้ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยอยู่ที่อาคารหอพักสถาบันราชภัฎยะลา สาขาเบตง และในวันนี้ได้มีพี่น้องแรงงานคนไทย เข้ามาถึงที่ด่านเบตงแล้วโดยมีเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เบตง นำเครื่องแฮนด์เฮลด์เทอร์โมมิเตอร์ (เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบมือถือ หรือพกพา) ทำการตรวจคัดกรองก่อนว่ามีไข้หรือไม่ ถ้าตรวจวัดแล้วมีไข้หรือมีอาการที่เสี่ยงก็จะนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที หากไม่มีไข้ก็จะผ่านกระบวนการของตม. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ มารับเพื่อไปกักตัวสถานที่ที่เตรียมไว้เพื่อดูอาการต่อไป อย่างไรก็ตามทางภาครัฐก็จะดูแลแรงงานเหล่านี้อย่างดี ในฐานะที่เขาเป็นคนไทยที่เดินทางไปทำมาหากินต่างแดน ส่งเงินมาเพื่อดูแลเลี้ยงครอบครัว ได้อยู่ได้กินได้ใช้ สำหรับมาตรการกักตัวนั้นทางอำเภอเบตงได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยมีเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เบตง และคณะแพทย์จากโรงพยาบาลเบตง ควบคุมดูแลสุขภาพ ซึ่งหากเจ็บไข้ก็จะส่งตัวมายังโรงพยาบาลเบตง ทันที จึงขอให้พี่น้องได้ไว้วางใจในจุดนี้ นายอำเภอเบตง กล่าว ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา