ธกส.ทั้ง 26 สาขาที่บุรีรัมย์ พร้อมให้คำแนะนำขั้นตอนการลงทะเบียนกู้เงินฉุกเฉินสู้ภัยโควิด 10,000 บาท แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ สนใจยื่นกู้ผ่านระบบออนไลน์ BAAC Family เพื่อนำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพหรือใช้จ่ายในครอบครัว คาดมีเกษตรกรยื่นกู้ไม่น้อยกว่า 10,000 คน วันนี้(17 เม.ย.63) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ทั้ง 26 สาขา ที่ตั้งอยู่ตามอำเภอต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมให้บริการแนะนำขั้นตอนการลงทะเบียน ในโครงการสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับเกษตรกรและครอบครัวของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท ตามมาตรการของรัฐบาล โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.1 % ต่อเดือน ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก และผ่อนชำระได้นานถึง 24 เดือน ให้แก่เกษตรกรที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว โดยการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ BAAC Family ซึ่งหากเกษตรกรหรือคนในครอบครัวของเกษตรกร มีความประสงค์ที่จะยื่นกู้เงินฉุกเฉินในโครงการดังกล่าว แต่ยังไม่เข้าใจรายละเอียด หรือขั้นตอนการลงทะเบียน หรือไม่สามารถลงทะเบียนได้ ก็สามารถโทรศัพท์สอบถาม หรือทยอยเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ธกส.สาขาอำเภอต่างๆ ได้ แต่ไม่ต้องเดินทางไปพร้อมกันจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ซึ่งหลังจากเปิดให้เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ก็มีเกษตรกรโทรศัพท์มาสอบถามที่ ธกส.สาขาต่างๆ แล้วมากกว่า 100 ราย นายรณภัทร สนแจ้ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า โครงการสินเชื่อฉุกเฉินสู้ภัยโควิดดังกล่าว ก็เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด เพื่อที่เกษตรกรจะได้นำเงินกู้ฉุกเฉินดังกล่าวไปลงทุนประกอบอาชีพ หรือใช้จ่ายในครอบครัว คาดว่า จ.บุรีรัมย์จะมีเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร ลงทะเบียนกู้เงินฉุกเฉินไม่น้อยกว่า 10,000 บาท จากข้อมูลในพื้นที่มีเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธกส. มากกว่า 180,000 ราย