ความสามารถที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไปพร้อมกับรักษาความสัมพันธ์อันหอมหวานได้ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งสุดยอดที่ทุกคนต้องการในชีวิต เช่นเดียวกัน หนึ่งในประสบการณ์ที่ร้ายที่สุดในเรื่องของการเดตก็คือการถูกจัดให้มีความสำคัญรองจากเรื่องงานของแฟน แต่ก็นะชีวิตทุกคนต้องเดินหน้า ออกจากพื้นที่ปลอดภัยไปแสวงหาโอกาส ความก้าวหน้า ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยพลังงาน และเวลามากมายที่ต้องทุ่มเท สำหรับสาวๆ ไม่ว่าคิดจะเปลี่ยนงาน หรือเดินหน้ากับงานเดิมก็ดี วันนี้เรามีตัวอย่างงานที่แฟนหนุ่มของคุณเขาไม่ค่อยปลื้มนักหรอกที่คุณทำ แต่อาจจะไม่เคยพูดออกมาให้รู้ก็เป็นได้ ๐ ผู้จัดการส่วนตัว เมื่อเป็นผู้จัดการส่วนตัวของศิลปิน หรือนักแสดงก็ดี มันหมายความว่าคุณจะต้องเข้าไปอยู่ในโลกของพวกเขาไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่อาจจะต้องรวมไปถึงเรื่องส่วนตัวด้วย การจัดการกับคนเหล่านี้สามารถทำให้ปวดหัวได้ไม่น้อย ลองนึกภาพที่ต้องดูแลคนอย่างจัสติน บีเบอร์ หรือคริส บราวน์ ซึ่งอาจจะต้องพยายามต่อสายไปหาพวกเขาให้ช่วยลบรูป หรือวิดิโอที่เพิ่งโพสต์ในอินสตาแกรม งานนี้ทำทุกวันไม่มีวันพัก จากที่เคยอยู่ในอพาตเมนต์คุณอาจจะมีกุญแจไขเข้าบ้านสุดหรู หรือทำเงินได้ถึง 8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ไม่นับที่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปที่ต่าง หากได้ดูแลพวกเอลิสต์ แต่ก็นะเวลาส่วนตัวที่หายไป กับความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวมันอันตรายไม่น้อยทีเดียว ๐ งานในอุตสาหกรรมพนัน งานในอุตสาหกรรมการพนันอาจจะฟังดูน่าตื่นเต้น แต่ที่จริงแล้วมันเครียดมากเอาการเชียว เรากำลังพูดถึงคนที่ทำงานอยู่ในกาสิโน ที่ตลอดทั้งวันจะต้องถูกลูกค้าพยายามติดสินบนเพื่อให้พวกเขาชนะพนัน ยังไม่นับรวมกรณีของสาวๆ ถ้ายิ่งสวยก็จะยิ่งมีลูกค้ามาขายขนมจีบไม่หวาดไม่ไหว การยิ้มหวานๆ อยู่รอบๆ ผู้ชายที่ขนเงินหลายพันดอลลาร์มาเล่นพนัน อาจจะถูกมองเหมารวมไม่ดีได้ จะทำเหินห่างก็ไม่ได้ เพราะลำพังแค่ค่าจ้างก็ไม่ได้มากอะไรนัก พนักงานพวกนี้ทำเงินได้จากค่าทิปเสียมากกว่า นี่แหละถึงได้เป็นอาชีพที่แฟนหนุ่มไม่ปลื้ม ๐ นักกายภาพบำบัดทางกีฬา ถ้าแฟนหนุ่มของคุณเป็นคนที่จัดอยู่ในประเภทขี้หึงแล้วหล่ะก็ การทำอาชีพนักกายภาพบำบัดทางกีฬา ยิ่งเป็นอะไรที่ท้าทายอย่างมาก เส้นทางการงานอาจจะค่อนข้างลำบาก เพราะการที่ต้องทำงานกับนักกีฬามืออาชีพ พวกเขาอาจจะไม่ใช่แค่คนไข้ธรรมดาสำหรับนักกายภาพหญิง เพราะบ่อยครั้งที่คนกลุ่มนี้มักทำเจ้าชู้ไปเรื่อย แต่คุณยังคงต้องรักษาไว้ซึ่งความเป็นมืออาชีพ ยังไม่นับที่ต้องตามทีมไปแข่งทัวร์นาเมนต์ยาวๆ แต่ก็นะอาชีพนี้มีรายได้ล่อตาล่อใจเฉลี่ยปีละ 110,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ เชียวหล่ะ ๐ สาวเสิร์ฟ คบกับพนักงานเสิร์ฟเหมือนจะมีดีตรงที่ได้อาหารฟรี หรือส่วนลด แต่มันไม่ได้จบแค่นั้นสิ เพราะอาชีพนี้หน่ะ อยากจะทำกะกลางคืนซะมากกว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนออกมากินข้าวนอกบ้าน พนักงานก็จะได้รายได้จากเงินทิปมากขึ้น อีกอย่างหากเป็นพนักงานเสิร์ฟสาวทรงเสน่ห์ เรื่องโดนลูกค้าจีบหนีไม่พ้นแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นพนักงานสาวบางคนอาจจะถูกขอร้องให้แต่งตัวเซ็กซี่หน่อยๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า แม้จะได้เงินเพิ่มก็จริง แต่เรื่องพวกนี้ล้วนแต่กระเทือนความสัมพันธ์ทั้งสิ้น ๐ บาร์เทนเดอร์ แม้ว่าวันทำงานของอาชีพบาร์เทนเดอร์จะดูแสนธรรมดา ยิ้มให้ลูกค้า รินเครื่องดื่มทั้งวัน แต่ถ้ามองลึกลงไปกว่านั้น คนทำอาชีพนี้ไม่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเลย ลูกค้าก็เมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนส่วนมากที่มานั่งหน้าบาร์ล้วนแล้วแต่พาปัญหา เรื่องทุกข์ใจของพวกเขามาเพื่อเล่าให้ใครสักคนฟัง ถ้าหาเพื่อนดื่มไม่ได้ ก็หนีไม่พ้นคนชงเครื่องดื่มที่อยู่หลังบาร์นั่นแหละ ยังไม่นับพวกที่ไม่ได้มาหารักแท้ แต่เป็นรักหลอกๆ หยอกเล่นๆ นั่นอีกหล่ะ เขาว่าในเมืองอย่างไมอามี หรือโตรอนโต ที่โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนอยู่ในระดับหน้าตาดี การทำงานที่บาร์หมายถึง โอกาสที่ง่ายต่อการนอกใจอีกด้วย ๐ นักกฎหมาย มีคนบอกเอาไว้ว่าปีแรกของอาชีพนักกฎหมายเป็นฝันร้ายสุดๆ ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆ นั่นแหละคุณอาจจะต้องเริ่มจากบริษัทเล็กๆ ก่อนที่ขยับขยายไปที่มันใหญ่ขึ้น แล้วก็หาว่าที่ไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด แต่สำหรับอาชีพนี้ การขนกองเอกสารมหาศาลกลับบ้าน อ่านกรณีศึกษา รับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจนสายแทบไหม้จากลูกค้าทั้งวัน นี่เป็นสิ่งที่คุณต้องเจอ แล้วถ้าคุณเป็นทนายฝ่ายจำเลย ที่ต้องปกป้องพวกเขา แต่ความรู้สึกคุณรู้ดีว่าพวกเขามีความผิด อารมณ์แบบนี้มันทำลายสุขภาพจิตมากเลยทีเดียว แม้จะทำรายได้สูงแต่งานมันหนัก และเครียดมาก นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หนุ่มๆ เขาไม่โอเคนัก ๐ คนงานค่าแรงถูก น่าจะเคยได้ยินกันมาไม่น้อยว่า ในความสัมพันธ์ที่จริงจัง หากขาดความพอดีทางเศรษฐกิจ นั่นจะเป็นเหตุให้ความรักนั้นพังทลายได้ เพราะความรักกินไม่ได้ ชีวิตยังต้องการปัจจัยสี่ ไม่ใช่แค่รักกัน ออกเดต สบายใจ แต่มันยังมีอะไรมากกว่านั้นที่คู่รักทำด้วยกัน เช่นไปท่องเที่ยวพักผ่อน หรือวางอนาคตร่วมกัน แชร์ห้องอยู่ด้วยกัน ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้มีรายได้มากเพียงพอ มันก็จะกระทบกับความรู้สึกของทั้งคู่ เปิดโทรทัศน์มาเห็นรถคันงาม บ้านสวยๆ เสื้อผ้าแพงๆ โฆษณาท่องเที่ยว แต่ก็ต้องห่อเหี่ยวเพราะเงินในกระเป๋าไม่อำนวย อันนี้ไม่รอดแน่