เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (15 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต นำโดย พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู สว.สส.สภ.วิชิต ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รองสว.(สอบสวน) สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.วิชิต ร่วมกันจับกุมตัว นายนนท์ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยของกลาง เงินสด 4,000 บาท และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.เกาะแก้ว (บ้านสะปำ) อ.เมือง จ.ภูเก็ต
หลังจากวันที่ 10 เม.ย.63 ที่ผ่านมารับเเจ้งจากทาง โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.วิชิต ถนนสายเขาขาด-อ่าวยนต์ อ.เมืองภูเก็ต ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์นักท่องเที่ยวภายในห้องพัก ได้เงินสดไปประมาณ 120 บาท โดยได้ทิ้งกระเป๋าไว้บนพื้นหน้าห้องพัก ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รองสว.(สอบสวน)สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบรอยเท้าของคนร้ายเดินบริเวณที่ชายหาดหน้าโรงแรม และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมเห็นคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ต่อมาวันที่ 12 เม.ย. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพักชาวต่างชาติที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.วิชิต ห่างจากจุดเกิดเหตุเเรกประมาณ 800 เมตร ซึ่งได้เงินสดไปประมาณ 16,000 บาท หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ พบรอยเท้าที่บริเวณชายหาดเช่นกัน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายชัดเจนและเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุวันที่ 10 เม.ย.63 ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดตลอดจนเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีจนทราบว่า คนร้ายได้พักอยู่ที่บริเวณห้องเช่าในพื้นที่ต.เกาะแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบและพบคนร้ายอยู่ภายในห้องจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.วิชิต
จากการสอบถาม นายนนท์ (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ทำงานรับจ้างเลี้ยงปลาอยู่ภายในกระชังที่ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่โรคระบาดโควิด 19 ปลาในกระชังไม่สามารถนำไปขายได้ ส่งผลให้นายจ้างได้หยุดเลี้ยงปลาและตนได้ตกงานอยู่ประมาณ 2 เดือน ทำให้ตนไม่มีเงินกินข้าวและไม่มีเงินเสียค่าห้องพัก อีกทั้งต้องเลี้ยงน้อง 1 คน เนื่องจากแม่ติดคุกอยู่จังหวัดพังงา ประกอบกับภรรยาท้องอยู่ 5 เดือน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยไปก่อเหตุโรงแรมที่ต.วิชิต จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งตนได้จอดรถจักรยานยนต์ห่างจากโรงแรมที่เกิดเหตุก่อนเดิอนลัดเลาะไปตามชายหาดโดยเลือกเวลาช่วงกลางคืนและจะไปดูห้องพักที่ที่นักท่องเที่ยวหลับจึงได้ย่องเข้าไปเอาทรัพย์สินภายในห้อง โดยจะเลือกเป็นเงินสด เมื่อได้เงินมาจึงนำไปเสียค่าห้องพัก จำนวน 4,000 บาท และโอนให้พี่สาวเพื่อฝากไปให้แม่ที่เรือนจำจังหวัดพังงา 3,000 บาท และเหลือไว้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง แต่มาถูกจับกุมได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา“ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน” ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.วิชิตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังจากวันที่ 10 เม.ย.63 ที่ผ่านมารับเเจ้งจากทาง โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.วิชิต ถนนสายเขาขาด-อ่าวยนต์ อ.เมืองภูเก็ต ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์นักท่องเที่ยวภายในห้องพัก ได้เงินสดไปประมาณ 120 บาท โดยได้ทิ้งกระเป๋าไว้บนพื้นหน้าห้องพัก ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รองสว.(สอบสวน)สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบรอยเท้าของคนร้ายเดินบริเวณที่ชายหาดหน้าโรงแรม และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมเห็นคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ต่อมาวันที่ 12 เม.ย. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพักชาวต่างชาติที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.วิชิต ห่างจากจุดเกิดเหตุเเรกประมาณ 800 เมตร ซึ่งได้เงินสดไปประมาณ 16,000 บาท หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ พบรอยเท้าที่บริเวณชายหาดเช่นกัน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายชัดเจนและเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุวันที่ 10 เม.ย.63 ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดตลอดจนเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีจนทราบว่า คนร้ายได้พักอยู่ที่บริเวณห้องเช่าในพื้นที่ต.เกาะแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบและพบคนร้ายอยู่ภายในห้องจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.วิชิต
จากการสอบถาม นายนนท์ (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ทำงานรับจ้างเลี้ยงปลาอยู่ภายในกระชังที่ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่โรคระบาดโควิด 19 ปลาในกระชังไม่สามารถนำไปขายได้ ส่งผลให้นายจ้างได้หยุดเลี้ยงปลาและตนได้ตกงานอยู่ประมาณ 2 เดือน ทำให้ตนไม่มีเงินกินข้าวและไม่มีเงินเสียค่าห้องพัก อีกทั้งต้องเลี้ยงน้อง 1 คน เนื่องจากแม่ติดคุกอยู่จังหวัดพังงา ประกอบกับภรรยาท้องอยู่ 5 เดือน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยไปก่อเหตุโรงแรมที่ต.วิชิต จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งตนได้จอดรถจักรยานยนต์ห่างจากโรงแรมที่เกิดเหตุก่อนเดิอนลัดเลาะไปตามชายหาดโดยเลือกเวลาช่วงกลางคืนและจะไปดูห้องพักที่ที่นักท่องเที่ยวหลับจึงได้ย่องเข้าไปเอาทรัพย์สินภายในห้อง โดยจะเลือกเป็นเงินสด เมื่อได้เงินมาจึงนำไปเสียค่าห้องพัก จำนวน 4,000 บาท และโอนให้พี่สาวเพื่อฝากไปให้แม่ที่เรือนจำจังหวัดพังงา 3,000 บาท และเหลือไว้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง แต่มาถูกจับกุมได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา“ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน” ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.วิชิตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป