แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยจะอยู่ในระดับที่ลดลง และถึงขึ้นบ้างแต่ยังอยู่ในระดับที่ยังน่าพอใจได้ แต่สำหรับตัวเลขของผู้ป่วยที่อาการยังอยู่ในระยะวิกฤติที่ตามข้อมูลมีอยู่ 61 คน ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยยังสมควรที่จะต้องยึดมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และเพื่อการ์ดไทยในการตั้งรับโควิด-19 จะได้ไม่ตก เพจเฟซบุ๊ก Somnuek Sungkanuparph ของคุณหมอสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ระบุ #เมื่อเราต้องใข้แพทย์และพยาบาล26คนในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตหนึ่งคน เมื่อผู้ป่วย COVID-19 บางรายเข้าสู่ภาวะวิกฤต เราจะต้องใช้แพทย์ประมาณ 4-5 คน และพยาบาล 3-5 คน ในการดูแลผู้ป่วยหนึ่งคน ซึ่งทำให้ต้องใช้กำลังคนจำนวนมากเมื่อเทียบกับการรักษาโรคอื่นๆ ที่กำลังวิกฤติ และต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาและมีประสบการณ์สูง แต่เมื่อใดก็ตามที่ผู้ป่วยวิกฤติที่มีอาการรุนแรงมาก จนปอดไม่สามารถทำงานได้เพียงพออีกต่อไป เราต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ที่เรียกว่า ECMO (ExtraCorporeal Membrane Oxygenation) เราต้องใช้กำลังคนทั้งแพทย์และพยาบาลจำนวนมากขึ้น 4-5 เท่า เมื่อใช้แพทย์และพยาบาลมากขึ้นหลายเท่า แปลว่าบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากขึ้นที่จะต้องมาทำงานที่มีความเสี่ยง และด้วยหัตถการที่ทำในผู้ป่วยวิกฤต ยิ่งทำให้ความเสี่ยงนั้นสูงขึ้นไปอีก แต่ไม่ว่าเราจะต้องใช้กำลังคนของแพทย์และพยาบาลมากแค่ไหน มีความเสี่ยงสูงแค่ไหน หากเราสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นอีกเพียงหนึ่งราย ก็มีความหมาย และเราจะสามารถเรียนรู้โรคนี้ได้ดีขึ้นและนำประสบการณ์นี้ไปดูแลรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่มีอาการรุนแรงรายอื่นๆต่อไป คงจะดีไม่น้อย ถ้าประชาชนทุกคนช่วยกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคนี้ และทำให้มันหมดไป ก่อนที่เราจะมีผู้ป่วยวิกฤตมากไปกว่านี้ #SaveDoctors #SaveNurses who care COVID-19 patients #เราอยู่ที่นี่เพื่อคุณ #โปรดอยู่ในบ้านเพื่อเรา #กลับจากต่างประเทศโปรดกักตัวเอง14วัน #CNMI #Ramathibodi #homefornow #socialdistance #wehereyouhome #ประเทศไทยเราต้องรอด  #เราจะสู้ไปด้วยกัน”