เชียงใหม่ฝุ่นลดลงในรอบหลายเดือน ได้ฝนช่วย แต่อุตุฯชี้อากาศดีแค่ 16 เม.ย. ขณะกทม.ฝุ่นคัมแบ็กพุ่งพรวดรวดเดียว!ติดท็อปเท็น ไฟป่าดอยหลวงเชียงดาวยังวิกฤติ จับได้มือเผาลักของป่า ห่วงป่าดิบชื้นตราบใดที่ฝนตกไม่ทั่วฟ้า จุดที่เกิดช้าที่สุดจะเป็นจุดที่รุนแรงที่สุด แนะรัฐมองความเป็นจริง ความจำเป็นของรถถัง-เรือดับน้ำ กับลมหายใจชาวเหนือ เครื่องบินดับไฟป่า ล่าสุดลูกอีเห็น 4 ตัวต้องพลัดพรากจากอกแม่ กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือ วันที่ 15 เม.ย.63 เวลา 06.00 น. พบว่าเช้านี้ อยู่ในระดับดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ระหว่าง 28 - 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังเกินมาตรฐานเพียง 2 พื้นที่ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) ที่บริเวณต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 76 ไมโครกรัม, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 55 ไมโครกรัม เหตุที่ค่าฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือลด อากาศดีขึ้น ค่าฝุ่นลดลงต่ำสุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาระบุ เนื่องจากมีฝนตกในบางแห่ง มีการไหลเวียนและการยกตัวของอากาศดีขึ้น ซึ่งจะเป็นในช่วงวันที่ 14-16 เม.ย. แต่หลังจากนั้นอากาศมีแนวโน้มจมตัวลงได้อีก ขณะที่คุณภาพอากาศในพื้นที่กทม.เช้านี้ พบว่าค่าฝุ่นเริ่มขยับในบางพื้นที่ อยู่ในระดับ คุณภาพดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบค่าระหว่าง 22 - 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณ2 พื้นที่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) ที่แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม 53 ไมโครกรัมฯ, ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง 52 ไมโครกรัมฯ ซึ่งหากสังเกตจะพบว่าอากาศไม่แจ่มใส เหมือนมีหมอก แต่นั่นคือฝุ่น ด้าน WWW.IQAIR.COM ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษ โดยรายงานแบบเรียลไทม์ วันที่ 15 เม.ย.63 เวลา 07.30 น. พบว่าเช้านี้เมืองเชียงใหม่ หล่นมาอยู่ในลำดับที่ 9 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 144 US AQI ขณะที่เมืองกทม. ฝุ่นพุ่งขึ้นมาจี้ติดอยู่ในลำดับที่ 10 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 136 US AQI ขณะที่ เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้เผยสถานการณ์ไฟป่าช่วงวันที่ 12-14 เม.ย.63 โดยระบุ ไฟป่าบริเวณรอบๆดอยหลวงเชียงดาว เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายจุดและกระจายเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่-ชุมชน ได้ระดมกำลังหลายส่วนช่วยกันดับไฟ ทำแนวกันไฟเพื่อสกัดกั้น และลาดตระเวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด โดยชุดลาดตระเวนขสป.เชียงดาว จับกุมผู้ลักลอบเข้าป่าได้ 1 คน และพบร่องรอยการเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่ (น้ำผึ้งป่า) คาดจะเป็นสาเหตุไฟป่าครั้งนี้ และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษต่อไป ทั้งนี้ ได้รับการสนันสนุนอากาศยานทิ้งน้ำดับไฟป่า จาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ 188 เที่ยว รวม 94,000 ลิตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2 ลำ 14 เที่ยว รวม 56,000 ลิตร โดยยังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องต่อไปจนกว่าจะสามารถดับไฟได้ ท่ามกลางข่าวร้ายการเสียชีวิตของจิตอาสาดับไฟป่า ที่ถูกไฟครอกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นรายที่ 6 ของปีนี้ เพจสายใต้ ออกรถ ซึ่งทำงานเพื่อช่วยเหลืองานดับไฟป่า มาตั้งแต่ปลายธันวาคมระบุ ได้ประเมินสถานการณ์ไฟป่าที่อาจจะมีทีท่าว่ากำลังจะดีขึ้น จากที่ฝนตกบางแห่ง จึงวางแผนที่จะทำงานร่วมกับพื้นที่โดยประเมินพื้นที่เสี่ยง ของการเกิดไฟ ซึ่งขณะนี้คือพื้นที่ที่มีป่าดิบชื้นเป็นหลัก เนื่องจาก เป็นป่าที่เกิดไฟช้าที่สุด แต่รุนแรงที่สุด ตราบใดที่ฝนยังตกไม่ทั่วฟ้า ป่าดิบชื้นในเชียงใหม่ทุกจุดคือพื้นที่เสี่ยงสำคัญ ซึ่งหากสามารถส่งของที่จำเป็นที่สุด คือ เครื่องเป่าใบไม้ ไปให้กับพื้นที่เหล่านั้น เพื่อทำแนวกันไฟ และป้องกันไฟให้ได้มากที่สุด จะทำให้การเกิดและการลุกลามของไฟเบาบางลงไปได้อย่างมาก ด้าน เพจ Vanchai Tantivitayapitak วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ อดีตบก.นิตยสารสารคดี และอดีตรองผอ.ไทยพีบีเอส และอดีตผอ.ฝ่ายข่าวพีพีทีวี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ “หากจะจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ยามนี้ บางทีรถถัง เรือดำน้ำ รถหุ้มเกราะอาจจะไม่จำเป็นเท่ากับเครื่องบินดับไฟป่า airtanker ในปีต่อ ๆไปไฟป่าดูท่าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ยุทธวิธีและอุปกรณ์การดับไฟป่าอาจจะต้องเปลี่ยนไป หากคิดจะปกป้องลมหายใจของผู้คนทางภาคเหนืออย่างจริงจัง” ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก Wildlife Clinic - Chiangmai คลินิกอนุรักษ์สัตว์ป่าเชียงใหม่ โพสต์อัพเดทสมาชิกล่าสุดที่ถูกส่งมาให้ทางคลินิกสัตว์ป่าดูแล คือ ลูกอีเห็นข้างลาย (Common palm civet) ทั้ง 4 ตัวถูกพบในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา – แม่แสะ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ คาดว่าไฟป่าน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แม่ต้องพลัดพรากจากลูก