ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางท้องถนนในฝรั่งเศสลดลงเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ยับยั้งไวรัสโคโรนาทั่วประเทศที่ทำให้รถยนต์ คนปั่นจักรยาน คนเดินเท้าหลายล้านหายไปจากท้องถนน พลเมือง 67 ล้านคนของฝรั่งเศสถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้านนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม พวกเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อกิจกรรมที่จำเป็นเท่านั้น การเดินทางข้ามประเทศก็ถูกห้าม เนื่องจากฝรั่งเศสต้องการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 13,000 คนจากผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 124,000 คน หน่วยงานจราจร ระบุว่า การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางท้องถนนลดลง 39.6 เปอร์เซ็นต์ทั่วประเทศในเดือนมีนาคมเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส ระบุว่า เมื่อเดือนมีนาคมมีรายงานผู้เสียชีวิตบนท้องถนน 154 ราย ลดลง 255 รายในปี 2019 ตัวเลขอุบัติเหตุก็ลดลง 43 เปอร์เซ็นต์ จาก 4,293 ครั้งในเดือนมีนาคมปี 2019 เหลือ 2,443 ครั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “การลดลงของผู้เสียชีวิตบนท้องถนนในเดือนมีนาคมปี 2020 เกิดขึ้นท่ามกลางมาตรการกักตัวนับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ซึ่งทำให้การเดินทางทั่วประเทศลดลงอย่างมาก” กระทรวงฯ ระบุ มีคนปั่นจักรยานและคนเดินเท้าลดน้อยลงมากบนถนนของฝรั่งเศสในช่วงเดือนดังกล่าว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการลดลงของผู้เสียชีวิตบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเสียชีวิตในหมู่คนขับยานยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งยังคงถูกมองว่ามีความจำเป็นและยังคงอยู่บนถนน ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด หน่วยงานการทางก็รายงานการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ที่ขับเร็วบนถนนของฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 30 มีนาคมถึง 5 เมษายนเช่นกัน มาตรการกักตัวของฝรั่งเศสจะมีต่อไปจนถึงวันที่ 15 เมษายนเป็นอย่างน้อย ถึงแม้ว่ารัฐบาลอาจประกาศขยายมาตรการในสัปดาห์หน้าก็ตาม