สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรง (โควิด-19) ทั่วโลกเมื่อวันที่ 11 เม.ย.พบว่า สหรัฐอเมริกา กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากกว่า 2,000 คนภายในวันเดียวและจะแซงอิตาลีขึ้นเป็นประเทศมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะมากที่สุดในโลกเร็วๆนี้
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ของสหรัฐฯ ระบุว่าในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ภายในวันเดียวเพิ่มมากเป็นสถิติโลก อยู่ที่ 2,108 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 18,693 คน ซึ่งราวครึ่งหนึ่งในนี้อยู่ที่รัฐนิวยอร์กที่เป็นศูนย์กลางการระบาดในสหรัฐฯ โดยพบด้วยว่าเจ้าหน้าที่ต้องนำตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นทำเป็นโรงเก็บศพชั่วคราว มาตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาล “วิกคอฟฟ์ ไฮท์ส เมดิคอล เซ็นเตอร์” ย่านบรูคลิน มหานครนิวยอร์ก เพื่อรองรับศพผู้เสียชีวิตที่มีจำนวนมากจนล้นห้องเย็นเก็บศพและรอผ่านขั้นตอนต่างๆ ก่อนนำไปฝังรวมต่อไป ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 500,399 คน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญในคณะทำงานพิเศษรับมือไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว ระบุว่า การระบาดเริ่มเข้าสู่ระดับคงที่ทั่วสหรัฐฯ แต่โดยรวมยังไม่ถึงจุดพีกหรือจุดสูงสุด ก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยคาดการณ์ว่าผู้เสียชีวิตสะสมในสหรัฐฯจะถึงจุดพีกสูงสุดในวันที่ 10 เม.ย. และจะเริ่มลดลงตามลำดับมาอยู่ที่วันละ 970 คนภายในวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งเป้าจะให้ภาคธุรกิจเริ่มเปิดทำการได้อีกครั้ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 10 เม.ย. หรือวันศุกร์ประเสริฐก่อนวันอีสเตอร์ ในวันที่ 11 เม.ย.คาดหวังว่าจะไม่ได้เห็นยอดผู้เสียชีวิตสะสมในสหรัฐฯ ถึง 100,000 คน ตามที่มีการคาดกันไว้ ตอนนี้มาตร– การรับมือเชิงรุกที่ใช้อยู่กำลังออกผลและช่วยชีวิตผู้คนไว้นับไม่ถ้วนและว่าอยากให้ธุรกิจเปิดได้เร็วที่สุด แต่จะไม่ดำเนินการใดๆจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพราะไม่อยากกลับไปจุดเดิมและเริ่มแก้ปัญหากันใหม่อีก
ด้าน ดร.เทดรอส อะดานอม เกเบรเยซูส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดเร็วไป เช่น การปิดเมืองสู้การระบาด อาจทำให้การระบาดย้อนกลับมาเกิดขึ้นซ้ำอีก แต่ละประเทศควรระมัดระวัง แม้เศรษฐกิจจะเสียหายบ้าง คำเตือนของ ผอ.WHO มีขึ้นขณะสเปนและอิตาลีกำลังจะผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดบางอย่างแต่ไม่ยกเลิกทั้งหมด โดยสเปนที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 161,852 คน ผู้เสียชีวิต 16,353 คน เตรียมอนุญาตให้แรงงานที่ไม่จำเป็นในหลายภาคส่วนรวมทั้งงานก่อสร้างและโรงงานเริ่มทำงานได้ต้นสัปดาห์หน้า และขอให้ประชาชนยึดตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) ในวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่อิตาลี ที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 147,577 คนเสียชีวิต 18,849 คน รัฐบาลขยายมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองทั่วประเทศออกไปจนถึงวันที่ 3 พ.ค. แต่จะอนุญาตธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านขายหนังสือ และร้านเสื้อผ้าเด็กเปิดได้ในวันที่ 14 เม.ย.นี้