ป่วยโควิด-19 ตายรายแรกที่แปดริ้ว เป็นสาวขายอาหารในโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมดัง ที่ อ.แปลงยาว ขณะคนในครอบครัวดราม่าหนักไม่ยอมรับสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมโวยอ้างยังไม่เห็นใบรับรองแพทย์มายืนยัน ขณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบคัดกรองโรคในพื้นที่สุ่มเสี่ยงแล้ว
วันที่ 10 เม.ย.63 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการยืนยันผลการตรวจพบเชื้อจากผู้เสียชีวิตรายล่าสุดในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหญิงวัย 42 ปี มีอาชีพขายอาหารในโรงงานผลิตตะแกรงเหล็กแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ตั้งอยู่ ม.9 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา โดยพบเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 5 เม.ย.63
ผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยลักษณะคล้ายโรคประจำตัวที่เคยป่วยอยู่เป็นประจำ คือ แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE) โดยมีอาการถ่ายเหลว อาเจียน ปวดบิดช่วงท้อง ไม่มีไข้ ได้เข้ารับการรักษาตัว แรกรับยังที่ รพ.สนามชัยเขต ตามภูมิลำเนา จากนั้นในวันที่ 6 เม.ย. 63 จึงเริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูง 38.9 องศาเซลเซียส หายใจถี่ และหายใจเร็ว อาการค่อนข้างเข้าขั้นวิกฤต แพทย์จึงสงสัยว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อ ก่อนที่จะส่งต่อมารักษาตัวยังที่ รพ.ขนาดใหญ่ของรัฐ ประจำในตัว จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 21.00 น. โดยผู้ป่วยอยู่ในสภาวะช็อคแล้ว และได้เสียชีวิตลงในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 7 เม.ย.63 ก่อนที่ผลการตรวจหาเชื้อจากผู้เสียชีวิตจะออกมา พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 ที่ผ่านมา หลังจากการเสียชีวิตไปแล้ว
ซึ่งในขณะนี้ นายแพทย์สาธารณะสุข จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับฝ่ายปกครองท้องที่ได้เดินทางลงไปสอบสวนโรค ทั้งบุคคลภายในครอบครัว ในพื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตแล้ว และไปยังที่โรงงานเพื่อตรวจสอบหาผู้ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตใน อ.แปลงยาว แล้ว โดยได้ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ส่วนบุคคลผู้มีความเสี่ยงต่ำให้สังเกตดูอาการตัวเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้รีบเข้าไปพบแพทย์
ต่อมาในวันที่ 9 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ นายคงวุฒิ ยอดพยุง ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.สนามชัยเขต แต่ได้เดินทางมาขายอาหารในโรงงาน ภายในนิคมฯ แห่งนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน โดยพบว่าโรงงานดังกล่าวมีพนักงานจำนวน 197 คน
โดยทางโรงงานจะทำการหยุดกิจการเป็นเวลา 3 วัน เพื่อปิดล้างทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และทางนิคมอุตสาหกรรม จะได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังโรงงานทุกแห่งในพื้นที่ ให้เพิ่มมาตรการในการคัดกรองป้องกันโรคจากเชื้อไวรัส โควิด 19 อย่างเข้มงวดมากขึ้น ทั้งพนักงานที่ทำงานภายในโรงงานรวมถึงบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อด้วย
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่าบุตรสาวของผู้เสียชีวิตรายนี้ ยังคงไม่ยอมรับว่าผู้เป็นมารดาได้เสียชีวิตลงด้วยโรคโควิด 19 โดยระบุว่ายังไม่เห็นใบรับรองแพทย์ ทั้งยังแสดงอาการเกรี้ยวกราดโวยวายใส่ผู้ที่พูดถึงและสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวภายในงานศพที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมาร่วมในงานฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวานนี้
ท่ามกลางความวิตกกังวนของผู้คนในสังคมรอบข้างว่า หากหญิงสาวรายดังกล่าวยังไม่ยินยอมที่จะกักตนเอง เนื่องด้วยความที่ยังไม่เชื่อว่ามารดาเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส โควิด 19 จนเสียชีวิตลงในครั้งนี้
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา
วันที่ 10 เม.ย.63 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการยืนยันผลการตรวจพบเชื้อจากผู้เสียชีวิตรายล่าสุดในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหญิงวัย 42 ปี มีอาชีพขายอาหารในโรงงานผลิตตะแกรงเหล็กแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ตั้งอยู่ ม.9 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา โดยพบเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 5 เม.ย.63
ผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยลักษณะคล้ายโรคประจำตัวที่เคยป่วยอยู่เป็นประจำ คือ แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE) โดยมีอาการถ่ายเหลว อาเจียน ปวดบิดช่วงท้อง ไม่มีไข้ ได้เข้ารับการรักษาตัว แรกรับยังที่ รพ.สนามชัยเขต ตามภูมิลำเนา จากนั้นในวันที่ 6 เม.ย. 63 จึงเริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูง 38.9 องศาเซลเซียส หายใจถี่ และหายใจเร็ว อาการค่อนข้างเข้าขั้นวิกฤต แพทย์จึงสงสัยว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อ ก่อนที่จะส่งต่อมารักษาตัวยังที่ รพ.ขนาดใหญ่ของรัฐ ประจำในตัว จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 21.00 น. โดยผู้ป่วยอยู่ในสภาวะช็อคแล้ว และได้เสียชีวิตลงในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 7 เม.ย.63 ก่อนที่ผลการตรวจหาเชื้อจากผู้เสียชีวิตจะออกมา พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เมื่อวันที่ 8 เม.ย.63 ที่ผ่านมา หลังจากการเสียชีวิตไปแล้ว
ซึ่งในขณะนี้ นายแพทย์สาธารณะสุข จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับฝ่ายปกครองท้องที่ได้เดินทางลงไปสอบสวนโรค ทั้งบุคคลภายในครอบครัว ในพื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตแล้ว และไปยังที่โรงงานเพื่อตรวจสอบหาผู้ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตใน อ.แปลงยาว แล้ว โดยได้ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ส่วนบุคคลผู้มีความเสี่ยงต่ำให้สังเกตดูอาการตัวเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้รีบเข้าไปพบแพทย์
ต่อมาในวันที่ 9 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ นายคงวุฒิ ยอดพยุง ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.สนามชัยเขต แต่ได้เดินทางมาขายอาหารในโรงงาน ภายในนิคมฯ แห่งนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน โดยพบว่าโรงงานดังกล่าวมีพนักงานจำนวน 197 คน
โดยทางโรงงานจะทำการหยุดกิจการเป็นเวลา 3 วัน เพื่อปิดล้างทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และทางนิคมอุตสาหกรรม จะได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังโรงงานทุกแห่งในพื้นที่ ให้เพิ่มมาตรการในการคัดกรองป้องกันโรคจากเชื้อไวรัส โควิด 19 อย่างเข้มงวดมากขึ้น ทั้งพนักงานที่ทำงานภายในโรงงานรวมถึงบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อด้วย
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่าบุตรสาวของผู้เสียชีวิตรายนี้ ยังคงไม่ยอมรับว่าผู้เป็นมารดาได้เสียชีวิตลงด้วยโรคโควิด 19 โดยระบุว่ายังไม่เห็นใบรับรองแพทย์ ทั้งยังแสดงอาการเกรี้ยวกราดโวยวายใส่ผู้ที่พูดถึงและสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวภายในงานศพที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมาร่วมในงานฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวานนี้
ท่ามกลางความวิตกกังวนของผู้คนในสังคมรอบข้างว่า หากหญิงสาวรายดังกล่าวยังไม่ยินยอมที่จะกักตนเอง เนื่องด้วยความที่ยังไม่เชื่อว่ามารดาเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส โควิด 19 จนเสียชีวิตลงในครั้งนี้
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา