"บิ๊กตู่" ตั้งคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจเอกชน รับมือโควิด-19 ถกนัดแรกจันทร์นี้ เตรียมมาตรการเยียว ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ลงนามวันที่ 8 เม.ย. เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นไปด้วยความรอบคอบ และมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 5/2563 เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ลงวันที่ 25 มี.ค.ข้อ 2 นายกรัฐมนตรีจึงแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทำหน้าที่ในการเข้าร่วมประชุมเพื่อให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะ การป้องกัน และแก้ไขปัญหาของภาคธุรกิจเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้ 1.เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน 2.ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการ 3.อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นกรรมการ 4.ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เป็นกรรมการ 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ 6.ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นกรรมการ 7.ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ 8.ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ 9.ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นกรรมการ 10.ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ 11.ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เป็นกรรมการ 12.ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ 13.ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นกรรมการ 14.ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ 15.นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นเลขานุการ 16.นายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ทั้งนี้ มีรายงานว่าในวันที่ 13 เม.ย. เวลา 09.30 น. คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนฯ จะประชุมครั้งแรกที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อหารือรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่อมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 3 และแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิผล รวมถึงหารือข้อเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติมเพื่อการปรับตัวและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งในระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว