บุรีรัมย์ คนร้ายอาศัยช่วงประกาศเคอร์ฟิว​ ห้ามออกจากเคหสถานหลัง 4 ทุ่ม  ขโมยยกตู้เติมเงินหายไปทั้งตู้   ตร.เร่งแกะรอยล่าตัว  คาดมีไม่ต่ำกว่า 2 คน  เมื่อเวลา 18.00 น. (9 เม.ย.63)  ร.ต.อ.ปริญญา   ยิ่งงาม  รองสารวัตร (สอบสวน)  สภ.เมืองบุรีรัมย์   ได้รับแจ้งจาก นายสุรเดช   เรืองรัมย์  อายุ  37 ปี พนักงานบริการติดตั้งตู้เติมเงินของบริษัท “บุญเติม”  ว่า​ มีคนร้ายขโมยยกตู้เติมเงินที่ติดตั้งไว้บริเวณบ้านเสม็ด  ต.เสม็ด  อ.เมืองบุรีรัมย์  หายไปทั้งตู้  จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์  ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ  ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวไม่มีเลขที่  บ้านเสม็ด  หมู่ 1 ต.เสม็ด  พบเพียงร่องรอยที่ติดตั้งตู้  และสายไฟที่ต่อพ่วงเข้ากับตู้เติมเงินถูกตัดออก    ส่วนตู้เติมเงินซึ่งเป็นของบริษัท “บุญเติม”  ได้ถูกคนร้ายยกเอาไปทั้งตู้   ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และฉวยโอกาสมาขโมยในช่วงกลางคืน  หรือหลังเวลา 4 ทุ่ม  ซึ่งเป็นช่วงที่ประกาศเคอร์ฟิว​ ห้ามออกจาก​เคหสถาน​ จึงไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน     จากการสอบถามนายสุรเดช    เรืองรัมย์   พนักงานบริการติดตั้งตู้เติมเงิน​ บริษัทบุญเติม​ ในเขตอำเภอเมือง  บอกว่า   ตนเองมีหน้าที่รับติดตั้ง  และดูแลซ่อมบำรุงตู้เติมเงินในเขตอำเภอเมือง   ส่วนตู้ดังกล่าวติดตั้งมาประมาณ 3 ปีแล้ว  ประมาณ 2 – 3 วันก็จะผ่านมาดูล่าสุดเมื่อวานนี้  ก็ยังเห็นตู้อยู่ปกติดี  แต่พอช่วงบ่ายวันนี้จะมาซ่อมตู้เพราะมีสัญญาณโชว์ที่บริษัทว่าตู้เสีย  ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่คนร้ายใช้อุปกรณ์ตัดสายไฟออกทำให้ไฟช็อต     แต่พอมาถึงก็พบว่าตู้เติมเงินถูกยกหายไปทั้งตู้แล้ว  จึงรีบแจ้งทางบริษัททราบและแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ    ก็คาดว่าในตู้ในจะมีเงินที่ลูกค้ามาเติมประมาณ 1,000–2,000 บาท  ส่วนราคาตู้นั้น​ตนเองไม่ทราบ   เพราะมีหน้าที่แค่ดูแลตู้และเก็บเงินจากตู้ส่งให้ทางบริษัทเท่านั้น   ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ  พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน  และจะได้สอบปากคำชาวบ้านใกล้เคียงเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม   รวมถึงจะไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะขับรถผ่าน   เพื่อหาเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป