อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง ใช้เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปาหล่อเลี้ยงตัวเมืองบุรีรัมย์ อยู่ในขั้นวิกฤติ เหลือน้ำกักเก็บเพียง 4 แสนลูกบาศก์เมตร ล่าสุดการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบุรีรัมย์ ได้ออกประกาศลดปริมาณการจ่ายน้ำ จากเที่ยงวัน ถึง 6 โมงเช้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป หากยังไม่สามารถหาน้ำมาเติมในอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งได้ จะแบ่งโซนพื้นที่การจ่ายน้ำเป็นเวลา ยกเว้นโรงพยาบาล
วันนี้(9 เม.ย.63) จังหวัดบุรีรัมย์ ประสบปัญหาภัยแล้ง เป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี 2562 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ หล่อเลี้ยงประชาชน และเขตเศรษฐกิจสำคัญของตัวเมืองบุรีรัมย์ อยู่ในขั้นวิกฤติ มีปริมาณคงเหลือรวมกัน ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 ประมาณกว่า 400,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เท่านั้น จากปริมาณความจุทั้งสองอ่าง รวมกันกว่า 56 ล้าน ลบ.ม.
การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ จึงขอประกาศลดการจ่ายน้ำประปา เพื่อให้สามารถผลิตจ่ายน้ำประปาได้นานยิ่งขึ้น และลดความเดือดร้อนจากการขาดน้ำประปาแปโภคบริโภคบริโภคให้ได้มากที่สุด ตามมาตรการที่ 2 คือ ขยายระยะเวลาการลดแรงดันน้ำเพื่อลดการจ่ายน้ำลง โดยจะเริ่มลดแรงดันน้ำในแต่ละวันตั้งแต่เวลา 12.00 น.ถึงเวลา 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และหลังวันที่ 30 เมษายน 2563 หากยังไม่สามารถหาน้ำมาเติมในอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งได้ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ จะเริ่มดำเนินการมาตรการที่ 3 คือ แบ่งโซนพื้นที่การจ่ายน้ำเป็นเวลา ยกเว้นโรงพยาบาล
ดังนั้นขอให้ประชาชนทุกครัวเรือนจัดเตรียมภาชนะสำรองน้ำเก็บไว้ใช้ และขอให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำประปาอุปโภค บริโภคได้นานยิ่งขึ้น จนกว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งจะ เป็นปกติ หรือได้น้ำจากแหล่งน้ำอื่นมาช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน
จากการดำเนินมาตรการข้างต้น จะทำให้ประปาไหลอ่อนลงหรือไหลเป็นบางเวลา และอาจมีความขุ่นหรือความเหนียวบ้างเป็นบางครั้ง เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง คงเหลือน้อย ทำให้น้ำดิบมีค่าความขุ่นสูงมาก การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ จำเป็นต้องเพิ่มสารเคมีสำหรับผลิตน้ำประปาให้ได้ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งหากบริเวณใดพบน้ำประปามีความขุ่นหรือมีความเหนียว หรือท่อแตกรั่ว กรุณาแจ้ง การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแก้ไข
วันนี้(9 เม.ย.63) จังหวัดบุรีรัมย์ ประสบปัญหาภัยแล้ง เป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี 2562 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ หล่อเลี้ยงประชาชน และเขตเศรษฐกิจสำคัญของตัวเมืองบุรีรัมย์ อยู่ในขั้นวิกฤติ มีปริมาณคงเหลือรวมกัน ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 ประมาณกว่า 400,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เท่านั้น จากปริมาณความจุทั้งสองอ่าง รวมกันกว่า 56 ล้าน ลบ.ม.
การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ จึงขอประกาศลดการจ่ายน้ำประปา เพื่อให้สามารถผลิตจ่ายน้ำประปาได้นานยิ่งขึ้น และลดความเดือดร้อนจากการขาดน้ำประปาแปโภคบริโภคบริโภคให้ได้มากที่สุด ตามมาตรการที่ 2 คือ ขยายระยะเวลาการลดแรงดันน้ำเพื่อลดการจ่ายน้ำลง โดยจะเริ่มลดแรงดันน้ำในแต่ละวันตั้งแต่เวลา 12.00 น.ถึงเวลา 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และหลังวันที่ 30 เมษายน 2563 หากยังไม่สามารถหาน้ำมาเติมในอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งได้ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ จะเริ่มดำเนินการมาตรการที่ 3 คือ แบ่งโซนพื้นที่การจ่ายน้ำเป็นเวลา ยกเว้นโรงพยาบาล
ดังนั้นขอให้ประชาชนทุกครัวเรือนจัดเตรียมภาชนะสำรองน้ำเก็บไว้ใช้ และขอให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำประปาอุปโภค บริโภคได้นานยิ่งขึ้น จนกว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งจะ เป็นปกติ หรือได้น้ำจากแหล่งน้ำอื่นมาช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน
จากการดำเนินมาตรการข้างต้น จะทำให้ประปาไหลอ่อนลงหรือไหลเป็นบางเวลา และอาจมีความขุ่นหรือความเหนียวบ้างเป็นบางครั้ง เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง คงเหลือน้อย ทำให้น้ำดิบมีค่าความขุ่นสูงมาก การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ จำเป็นต้องเพิ่มสารเคมีสำหรับผลิตน้ำประปาให้ได้ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งหากบริเวณใดพบน้ำประปามีความขุ่นหรือมีความเหนียว หรือท่อแตกรั่ว กรุณาแจ้ง การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบุรีรัมย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแก้ไข