อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน สนธิกำลังตรวจเข้มเคอร์ฟิว ในภาวะสถานการณ์ฉุกเฉิน สกัดคนออกนอกบ้าน หวังลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 22.00 น.นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย นายสังวร มาอุด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาเติง นายจเด็ด สุวรรณะ กำนันตำบลเวียงใต้ นายสุรเพชร สิทธิเพชร ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าขาม นายวิรัช พรมเขียว ผู้ใหญ่บ้านบ้านเจ้าหม้อ พ.ต.ต.นพคุณ อรรถธรรมกุล รองผู้กำกับ สภ.ปายและคณะ กำลังทหารจากค่ายโสณิบัณฑิต และกำลัง อส.อำเภอปาย ร่วมตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ณ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และได้ออกข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 แล้วนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ง่าย โดยให้ประชาชนอยู่ในเคหะสถาน หรือบริเวณที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอก และเพื่อการป้องกันการเกิดอาชญากรรม หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้มีมาตรการต่างๆ เพิ่มขึ้นตามความจำเป็น เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ยุติลงได้โดยเร็ว นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเพิ่มเติม (ฉบับที่2) ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีเหตุจำเป็น โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่(นายอำเภอ) ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม พบว่า หลังเวลา 22.00 น.ในพื้นที่เมืองปาย ซึ่งเดิมก่อนประกาศเคอร์ฟิว จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงชาวเมืองปายเอง เดินขวักไขว่ เพื่อเที่ยวในถนนคนเดิม และท่องเที่ยวตามสถานบริการ แต่หลังจากที่ได้มีการประกาศเคอร์ฟิวแล้ว พบว่า ไม่มีผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งออกมาเพ่นพ่านตามท้องถนนเหมือนที่เคยเป็น สาเหตุมาจากการเคารพกฎหมายของคนไทยในพื้นที่