เมื่อเวลา 02.00น. วันที่ 9 เมษายน ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ รักอู่ รองสว.สอบสวน สภ.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โรงงานวังมะนาวเกษตรภัณฑ์ จำกัด จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทราบและประสานรถน้ำดับเพลิงเทศบาลตำบลปากท่อ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรม ราชานุสรณ์ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานวัตถุดิบอาหารสัตว์ เกี่ยวกับข้าวโพด ตั้งอยู่เลขที่ 127 ม.5 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีลักษณะเป็นโกดังสตอกอาหารชั้นเดียว และด้านข้างโรงงานเป็นบ้านของเจ้าของโรงงาน ซึ่งที่เกิดเหตุได้มีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนเเรงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลปากท่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรม ราชานุสรณ์ เร่งเข้าทำการเข้าระงับเพลิงที่กำลังโหมไหม้อยู่ภายในโรงงาน แต่ก็ควบคุมเพลิงไว้ไม่อยู่ จึงร้องขอประสานรถน้ำดับเพลิง อบต.ดอนทราย อบต.ยางโทน อบต.ดอนตะโก เทศบาลเขาย้อย อบต.วังมะนาว อบต.ป่าไก่ อบต.บ่อกระดาน อบต.หนองชุมพลเหนือ จำนวน 10 คัน ร่วมสนับสนุนช่วยระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ปากท่อ ก็ได้อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง
สอบถาม นายเสนีย์ แก้วพิจิตร เป็นเจ้าของโรงงาน เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ ตี2 ตนเองได้นอนอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ติดกับโรงงานที่เกิดเหตุ ได้มีเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของตนเอง บอกว่า ไฟไหม้ที่โรงงาน ตนเองจึงรีบปลุกลูกและภรรยาให้ออกมาจากบ้าน และวิ่งเอาถังดับเพลิงมาที่โรงงานซึ่งพบไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่บริพื้นด้านล่าง ในโรงงาน จึงได้ฉีดน้ำยาดับเพลิงไปยังกองไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่แต่ตนเองก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะด้านในโรงงานนั้นมีถุงพลาสติกอาหารสัตว์ จำนวนมากและรถโฟร์คลิฟท์อยู่ 4-5 คัน ถูกเพลิงไหม้ไป3คัน จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพลิงไฟนั้นได้ลุกลามไหม้ไปทั่วโรงงานอย่างรุนแรง และเพลิงไฟได้ลุกลามเข้าไปยังบ้านของตนเองด้วย แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ด้านในโรงงานเลยมีแต่ตนเองและครอบครัวพักผ่อนอยู่ที่บ้านข้างๆโรงงาน และได้ออกมาจากบ้านกันหมดแล้วจึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ตนเองก็บาดเจ็บแค่เล็กน้อย ซึ่งค่าเสียหายนั้นทางด้านนายเสนีย์ แก้วพิจิตร เจ้าของโรงงาน คาดว่าน่าจะเป็นมูลค่าหลายล้านแต่ตนเองก็ยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ ซึ่งก็จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการมาตรวจสอบ
ทั้งนี้ทางด้านของร.ต.อ.ชัยวัฒน์ รักอู่ รองสว.สอบสวน สภ.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรีก็จะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ที่ชัดเจนต่อไป.
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานวัตถุดิบอาหารสัตว์ เกี่ยวกับข้าวโพด ตั้งอยู่เลขที่ 127 ม.5 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีลักษณะเป็นโกดังสตอกอาหารชั้นเดียว และด้านข้างโรงงานเป็นบ้านของเจ้าของโรงงาน ซึ่งที่เกิดเหตุได้มีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนเเรงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลปากท่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรม ราชานุสรณ์ เร่งเข้าทำการเข้าระงับเพลิงที่กำลังโหมไหม้อยู่ภายในโรงงาน แต่ก็ควบคุมเพลิงไว้ไม่อยู่ จึงร้องขอประสานรถน้ำดับเพลิง อบต.ดอนทราย อบต.ยางโทน อบต.ดอนตะโก เทศบาลเขาย้อย อบต.วังมะนาว อบต.ป่าไก่ อบต.บ่อกระดาน อบต.หนองชุมพลเหนือ จำนวน 10 คัน ร่วมสนับสนุนช่วยระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ปากท่อ ก็ได้อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง
สอบถาม นายเสนีย์ แก้วพิจิตร เป็นเจ้าของโรงงาน เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ ตี2 ตนเองได้นอนอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ติดกับโรงงานที่เกิดเหตุ ได้มีเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของตนเอง บอกว่า ไฟไหม้ที่โรงงาน ตนเองจึงรีบปลุกลูกและภรรยาให้ออกมาจากบ้าน และวิ่งเอาถังดับเพลิงมาที่โรงงานซึ่งพบไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่บริพื้นด้านล่าง ในโรงงาน จึงได้ฉีดน้ำยาดับเพลิงไปยังกองไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่แต่ตนเองก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะด้านในโรงงานนั้นมีถุงพลาสติกอาหารสัตว์ จำนวนมากและรถโฟร์คลิฟท์อยู่ 4-5 คัน ถูกเพลิงไหม้ไป3คัน จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพลิงไฟนั้นได้ลุกลามไหม้ไปทั่วโรงงานอย่างรุนแรง และเพลิงไฟได้ลุกลามเข้าไปยังบ้านของตนเองด้วย แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ด้านในโรงงานเลยมีแต่ตนเองและครอบครัวพักผ่อนอยู่ที่บ้านข้างๆโรงงาน และได้ออกมาจากบ้านกันหมดแล้วจึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ตนเองก็บาดเจ็บแค่เล็กน้อย ซึ่งค่าเสียหายนั้นทางด้านนายเสนีย์ แก้วพิจิตร เจ้าของโรงงาน คาดว่าน่าจะเป็นมูลค่าหลายล้านแต่ตนเองก็ยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ ซึ่งก็จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการมาตรวจสอบ
ทั้งนี้ทางด้านของร.ต.อ.ชัยวัฒน์ รักอู่ รองสว.สอบสวน สภ.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรีก็จะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ที่ชัดเจนต่อไป.