คลังเล็งใช้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน แจกเกษตรกรจำนวน 9 ล้านครัวเรือนรับ 3 หมื่นบาทเข้าบัญชีธนาคารรวดเดียวเยียวยาโควิด นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังเปิดเผยว่า กรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้ออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)กู้เงินเพื่อเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ จากผลกระทบโควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น ในส่วนการให้ความช่วยเหลือและเยียวยากลุ่มเกษตรกร เบื้องต้นมีแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรเป็นรายครัวเรือน โดยการจ่ายเงินสดเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกร เหมือนกับการช่วยเหลือกลุ่มลูกจ้าง แรงงาน และอาชีพอิสระที่รัฐบาลจ่ายเงินช่วยเหลือให้เป็นเวลา 6 เดือน สำหรับตัวเลขกลุ่มเกษตรกรที่จะได้รับสิทธิ เบื้องต้นจากฐานข้อมูลเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)มีประมาณ 9 ล้านครัวเรือน ส่วนจะให้ถึงครัวละเรือนละ 30,000 บาทหรือไม่นั้น กำลังดูให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่ โดยรัฐบาลจะดูแลเกษตรกรควบคู่กับไปการบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งด้วย นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)กล่าวว่า ในเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น เบื้องต้นจะจ่ายให้เกษตรกรเป็นรายครัวเรือน ซึ่งจะเป็นการจ่ายเงินให้ก้อนเดียวไม่ใช่ให้เป็นรายเดือนแบบที่รัฐบาลโอนเงินช่วยเหลือให้กลุ่มอาชีพอิสระ เพราะมองว่าช่วงนี้เกษตรกรได้รับผลกระทบหนัก เกษตรกรบางรายไม่มีรายได้เลยและสินค้าเกษตรราคาลดลง โดยขณะนี้ ธ.ก.ส.กำลังรวบข้อมูลเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อตรวจสอบว่ามีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรฯ ทั้งหมดเท่าไหร่ และเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ซ้ำซ้อน เนื่องจากบางครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรมหลายอย่างเช่น ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น จึงมีการขึ้นทะเบียนกับหลายหน่วยงาน ทั้งนี้คาดว่าจะมีเกษตรกรที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการนี้จำนวน 8-9 ล้านครัวเรือน ทั้งนี้เดิมคุยกับกระทรวงการคลังไว้ว่าจะจ่ายให้เกษตรกร จำนวน 15,000 บาทต่อราย เท่ากับการที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 3 เดือน แต่ขณะนี้ ครม.มีมติเพิ่มเติมให้จ่ายเงินคนกลุ่มดังกล่าวถึง 6 เดือนเป็นเงิน 30,000 บาทต่อราย ดังนั้น ธ.ก.ส.ได้เสนอกระทรวงการคลังไปว่าจะสามารถให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 30,000 บาทเหมือนกับกลุ่มอาชีพดังกล่าวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามในเรื่องวงเงินที่จะช่วยเหลือเกษตรกรนั้น จะใช้วงเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อเยียวยาและดูเศรษฐกิจในแผนงานด้านสาธารณสุขและแผนงานเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบวงเงิน 600,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของเงินที่ช่วยเหลือเกษตรกรต้องดูก่อนว่าเงินที่ใช้ดูแลกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและด้านสาธารณสุขจะเหลือเท่าไหร่ และจะเพียงพอจ่ายให้กับเกษตรกรถึงจำนวน 6 เดือนหรือไม่ ส่วนวิธีการโอนเงินนั้น ถ้าหากเกษตรกรคนใดมีบัญชีธนาคารของธ.ก.ส.อยู่ก่อนแล้ว หากได้รับสิทธิได้เงินเยียวยา ธ.ก.ส.ก็จะโอนเงินผ่านบัญชี ธ.ก.ส.ให้เลย ส่วนเกษตรกรรายใดไม่มีบัญชีของ ธ.ก.ส. ก็จะให้ผู้ที่ได้รับสิทธิแจ้งกรอกข้อมูลเลขบัญชีธนาคารอื่นหรือบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่เว็บไซต์ของ ธ.ก.ส.ซึ่งจะเป็นช่องทางพิเศษที่ธ.ก.ส.ทำเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้การโอนเงินมีความรวดเร็ว