ไม่ว่าไทย/ต่างชาติ ต้องถูกกักบริเวณ 14 วันในจุดที่จัดไว้เท่านั้น มีทั้งของภาครัฐและเอกชน โดยมีกว่า 1.4 พันหองรองรับ พร้อมยึดเคสภูเก็ต เพิ่มมาตรการเข้มข้นค้นหากลุ่มเสี่ยงในกทม. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จะมีการปรับระบบใหม่ในการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ติดเชื้อภายในประเทศ และเฉพาะกลุ่มเดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะปรับวิธีจัดการใหม่ ต่อไปนี้จะไม่ปล่อยให้คนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศกักตัว 14 วัน ด้วยตัวเองแล้ว แต่จะต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด (State Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน โดยจะไม่ปล่อย ให้กักตัวเอง หรือเดินทางเอง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 สู่คนภายในประเทศ สำหรับการเตรียมสถานที่กักตัวนั้น ได้เตรียมสถานที่ต่างๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน รวมแล้วรองรับได้ 1,883 ห้อง โดยแบ่งเป็นสถานที่หน่วยงานราชการ 131 ห้อง ได้แก่ โรงเรียนการบินกำแพงแสน 36 ห้อง และอาคารรับรองของกองทัพเรือ ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 100 ห้อง ในส่วนของภาคเอกชนได้จัดเตรียมพื้นที่กักตัวจำนวน 1,774 ห้อง มีคนเข้ากักตัวแล้ว 307 คน นั่นหมายความว่า ขณะนี้เรายังมีห้องกักตัวเหลืออีกกว่า 1,400 ห้อง ที่จะรองรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือชาวต่างชาติ โดยจะต้องถูกกักตัว 14 วัน เพื่อลดการแพร่ระบาดไปสู่พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการค้นหาผู้ป่วยในเชิงรุกที่เข้มข้นขึ้น เช่น ใน จ.ภูเก็ต มีการปิดสถานที่ กำหนดให้พื้นที่หาดป่าตองเป็นพื้นที่สีแดง และขยายการสอบสวน หรือการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ซึ่งขณะนี้เก็บตัวอย่างมากกว่า 1,500 ตัวอย่าง ทั้งคนมีอาการ และ คนที่ไม่มีอาการ จนเจอกลุ่มเสี่ยง ซึ่งตอนนี้ถูกกักตัวไปแล้วกว่า 1,000 คน ซึ่งจะทำเช่นนี้ในพื้นที่กทม.ด้วยเช่นกัน เมื่อมีการชี้เป้าผู้ติดเชื้อจะมีการลงไปตรวจเชิงรุกทันทีเพื่อให้ทันสถานการณ์