นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม.กล่าวกรณีปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมรองรับการยกระดับปฏิบัติการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า กทม. โดยสำนักการแพทย์ ได้รณรงค์เรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ได้แก่ การจัดพื้นที่นั่งรอรับบริการในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วย โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เมตร เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล มีการเตรียมพร้อมบุคลากรที่ปฏิบัติงาน บริหารจัดการจำนวนเตียง เปิดโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง (PPE) ยา และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต รวมถึงเตรียมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยมีศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) เป็นศูนย์กลางประสานการรับ-ส่งผู้ป่วยของโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกทั้งบูรณาการความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งจุดตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยในแต่ละด่านจะมีเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคง (กอ.รมน.) เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิต่าง ๆ ร่วมคัดกรองผู้ที่มีอาการ อาทิ ตัวร้อน ไอ จาม เพื่อนำเข้าสู่การดูแลรักษา ขณะเดียวกัน สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย พร้อมรถดับเพลิง รถกู้ภัย และวัสดุอุปกรณ์การดับเพลิงและกู้ภัย พร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งได้จัดรถดับเพลิง รถกู้ภัยสารเคมี ถังดับเพลิง พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย เข้าร่วมการผลิตแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือร่วมกับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช รวมถึงดูแลป้องกันการเกิดอัคคีภัยในระหว่างการผลิต เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ อาจเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ได้ นอกจากนั้น สำนักพัฒนาสังคม กทม. ยังได้จัดเตรียมบุคลากร เช่น นักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาชุมชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการ Local Quarantine ของกทม.รวมทั้งช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และดูแลสวัสดิการต่างๆ ให้แก่ผู้เสี่ยงติดเชื้ออีกด้วย