ยอดลดลงต่ำสุดในรอบสัปดาห์ โดย 1 รายเสียชีวิตล่าสุด ชายไทยวัย 54 มีประวัติร่วมงานปาร์ตี้ผับย่านทองหล่อและอีกหลายที่ ขณะผู้ป่วยใหม่ กลุ่มใหญ่ 17 รายยังติดจากคนป่วยก่อนหน้า ส่วนใหญ่อยู่ในกทม.ติดต่อกันในบ้านและที่ทำงาน รวมทั้งยังมีเดินทางจากตปท.อีก 3 ติดจากที่ชุมนุมชน ทำงานกับต่างชาติ บุคลากรการแพทย์ติดเพิ่มอีก 3 กทม.ยังนำโด่งติดเชื้อสะสมสูงสุดกว่าพันราย ขณะอีก 11 จว.ยังแกร่งไม่พบผู้ติดเชื้อ
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า ล่าสุด ข้อมูลในวันนี้ไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 38 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 27 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,258 ราย หายป่วยกลับบ้านสะสม 824 ราย ยังรักษาอยู่ในรพ.1,407 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัว แต่มีประวัติไปงานเลี้ยงสังสรรค์หลายที่ โดยเฉพาะสถานบันเทิงย่านทองหล่อ มีอาการป่วยวันที่ 13 มี.ค. มีอาการเหนื่อย หายใจลำบาก เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน วันที่ 14 มี.ค. พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ปอดอักเสบรุนแรง ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 6 เม.ย.
ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย จำแนก ได้ดังนี้
1.ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 17 ราย โดยเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ รวม 17 ราย ส่วนใหญ่เป็นกทม.11 ราย มีทั้งติดจากคนในบ้านที่ทำงานและกลุ่มเพื่อน
2.ผู้ป่วยอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ป่วยก่อนหน้า 16 ราย แบ่งเป็น คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย / ไปสถานที่ชุมนุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย / อาชีพเสี่ยง หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 7 ราย / บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 3 ราย
3.รอรายละเอียดจากการสอบสวนโรค 5 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 38 รายแบ่งเป็น กรุงเทพฯ 25 ราย / ชลบุรี 4 ราย / ภูเก็ต 3 ราย / กระบี่ ชุมพร นครราชสีมา นนทบุรี พิษณุโลก สุพรรณบุรี 1 ราย
สัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,220 ราย / ภาคเหนือ 86 ราย / ภาคกลาง 327 ราย / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 100 ราย / ภาคใต้ 352 ราย โดยขณะนี้พบผู้ป่วยสะสมใน 66 จังหวัด จำนวน 2,258 คน ซึ่งกรุงเทพมหานครพบผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดที่ 1,201 ราย ภูเก็ต 138 ราย นนทบุรี 134 รายสมุทรปราการ 99 ราย ชลบุรี 70 ราย ยะลา 54 ปัตตานี 46 ราย เชียงใหม่ 37 ราย สงขลา 37 ราย ปทุมธานี 26 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 79 ราย
อย่างไรก็ตาม พบว่ามี 11 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วย ดังนี้ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และอ่างทอง
ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย จำแนก ได้ดังนี้
1.ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 17 ราย โดยเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ รวม 17 ราย ส่วนใหญ่เป็นกทม.11 ราย มีทั้งติดจากคนในบ้านที่ทำงานและกลุ่มเพื่อน
2.ผู้ป่วยอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ป่วยก่อนหน้า 16 ราย แบ่งเป็น คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย / ไปสถานที่ชุมนุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย / อาชีพเสี่ยง หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 7 ราย / บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 3 ราย
3.รอรายละเอียดจากการสอบสวนโรค 5 ราย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 38 รายแบ่งเป็น กรุงเทพฯ 25 ราย / ชลบุรี 4 ราย / ภูเก็ต 3 ราย / กระบี่ ชุมพร นครราชสีมา นนทบุรี พิษณุโลก สุพรรณบุรี 1 ราย
สัดส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแบ่งตามพื้นที่ ดังนี้ กรุงเทพฯ และนนทบุรี 1,220 ราย / ภาคเหนือ 86 ราย / ภาคกลาง 327 ราย / ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 100 ราย / ภาคใต้ 352 ราย โดยขณะนี้พบผู้ป่วยสะสมใน 66 จังหวัด จำนวน 2,258 คน ซึ่งกรุงเทพมหานครพบผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดที่ 1,201 ราย ภูเก็ต 138 ราย นนทบุรี 134 รายสมุทรปราการ 99 ราย ชลบุรี 70 ราย ยะลา 54 ปัตตานี 46 ราย เชียงใหม่ 37 ราย สงขลา 37 ราย ปทุมธานี 26 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน 79 ราย
อย่างไรก็ตาม พบว่ามี 11 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วย ดังนี้ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และอ่างทอง