เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป. ร.ต.อ.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก. ป.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายกิตติพันธุ์ ติ๊ดอินทร์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 239/2562 ลงวันที่ 25 ก.ค.62 ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น ได้ที่ ซ.สายฝนร่วมใจ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2562 เวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ร้านอาหารอนงค์นารถ ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนางเอ (นามสมุติ) เจ้าของร้านถูกคนร้ายใช้ขวดเบียร์ซึ่งทุบเป็นปากฉลาม แทงเข้าที่ลำตัวเป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นนักร้องในร้านทราบผู้ก่อเหตุคือนายกิตติพันธุ์ (ผู้ต้องหา) ซึ่งมาติดพันตนเองหลังเลิกงานทุกวันนายกิตติพันธุ์ จะมานั่งกินเหล้าและคล้องพวงมาลัยให้ตนเองอยู่เป็นประจำและพยายามตื้อตนเองให้ไปเที่ยวต่อหลังร้านปิดแต่ตนเองไม่เล่นด้วย จึงสร้างความไม่พอใจให้กับนายกิตติพันธุ์ฯ กระทั่งวันเกิดเหตุ นายกิตติพันธุ์ฯ มานั่งกินเหล้าที่ร้านจนเมา พอร้านปิดนายกิตติพันธุ์ บอกว่าต้องการให้ไปร่วมหลับนอนด้วยคิดค่าตัวเท่าไหร่ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับตนเองและนางเอ เจ้าของร้านเป็นอย่างมากจนเกิดการด่าทอโต้เถียงกับนายกิตติพันธุ์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาการเมาสุราจึงตรงเข้ามาทำร้ายนางเอเจ้าของร้านโดยใช้ขวดเบียร์ที่นั่งกินอยู่ทุบให้แตกเป็นปากฉลาม แทงเข้าที่ลำตัวของนางเอ จำนวนหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วได้วิ่งไปขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนทราบว่า นายกิตติพันธุ์ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ซ.สายฝนร่วมใจ ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี จึงได้ไปตรวจสอบพบนายกิตติพันธุ์ เดินออกจากบ้านพักมาซื้อของที่ร้านค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าวันที่เกิดเหตุ ตนเองเมามากและแอบชอบนักร้องในร้าน แต่นักร้องไม่เล่นด้วยจึงไปบอกกับเจ้าของร้านขอพานักร้องไปร่วมหลับนอนด้วยแต่ถูกเจ้าของร้านด่ากลับมาจึงโมโหประกอบกับเมา จึงได้ใช้ขวดเบียร์ที่โต๊ะอาหารทุบให้แตกเป็นปากฉลามแทงไปที่ลำตัวนางเอ เจ้าของร้านหลายครั้งแล้วหลบหนีกลับมาหางานทำที่ จ.ราชบุรี
จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นนักร้องในร้านทราบผู้ก่อเหตุคือนายกิตติพันธุ์ (ผู้ต้องหา) ซึ่งมาติดพันตนเองหลังเลิกงานทุกวันนายกิตติพันธุ์ จะมานั่งกินเหล้าและคล้องพวงมาลัยให้ตนเองอยู่เป็นประจำและพยายามตื้อตนเองให้ไปเที่ยวต่อหลังร้านปิดแต่ตนเองไม่เล่นด้วย จึงสร้างความไม่พอใจให้กับนายกิตติพันธุ์ฯ กระทั่งวันเกิดเหตุ นายกิตติพันธุ์ฯ มานั่งกินเหล้าที่ร้านจนเมา พอร้านปิดนายกิตติพันธุ์ บอกว่าต้องการให้ไปร่วมหลับนอนด้วยคิดค่าตัวเท่าไหร่ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับตนเองและนางเอ เจ้าของร้านเป็นอย่างมากจนเกิดการด่าทอโต้เถียงกับนายกิตติพันธุ์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาการเมาสุราจึงตรงเข้ามาทำร้ายนางเอเจ้าของร้านโดยใช้ขวดเบียร์ที่นั่งกินอยู่ทุบให้แตกเป็นปากฉลาม แทงเข้าที่ลำตัวของนางเอ จำนวนหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วได้วิ่งไปขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนทราบว่า นายกิตติพันธุ์ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ซ.สายฝนร่วมใจ ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี จึงได้ไปตรวจสอบพบนายกิตติพันธุ์ เดินออกจากบ้านพักมาซื้อของที่ร้านค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าวันที่เกิดเหตุ ตนเองเมามากและแอบชอบนักร้องในร้าน แต่นักร้องไม่เล่นด้วยจึงไปบอกกับเจ้าของร้านขอพานักร้องไปร่วมหลับนอนด้วยแต่ถูกเจ้าของร้านด่ากลับมาจึงโมโหประกอบกับเมา จึงได้ใช้ขวดเบียร์ที่โต๊ะอาหารทุบให้แตกเป็นปากฉลามแทงไปที่ลำตัวนางเอ เจ้าของร้านหลายครั้งแล้วหลบหนีกลับมาหางานทำที่ จ.ราชบุรี