"กรมสมเด็จพระเทพฯ"โปรดเกล้าฯ"มูลนิธิชัยพัฒนา"จัดตั้ง"กองทุนสู้ภัยโควิด-19" ด้าน "บิ๊กตู่" ขอปชช. เชื้อมั่น-วางใจรัฐบาลแก้ปัญหาไวรัสมรณะระบาด ย้ำใช้กฎหมายปกติบริหารประเทศ ขออย่าเชื่อโซเชียลมุ่งสร้างความแตกแยกในสังคม ยันยังไม่มีแผนประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ แย้มตัวเลขผู้ติดเชื้อลด-ไม่เพิ่มมาตร การ "มท.2"ย้ำหนังสือมท.ส่งถึง "ผู้ว่าฯ" ทั่วประเทศ ไม่เกี่ยวเตรียมประกาศเคอร์ฟิว 24 ชม. ขณะที่ "สิระ" เสนอ "นายกฯ" สั่งตัดเงินเดือน"ขรก.การเมือง" สู้โควิด-19 ส่วน"จุรินทร์" ประกาศอุดมกาณ์ร่วมรบ.อย่างเข้มแข็ง เมื่อวันที่ 6 เม.ย.63 เฟซบุ๊ก @chaipattanafoundation ของมูลนิธิชัยพัฒนา ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า ทางมูลนิธิมีการจัดตั้งกองทุนสู้ภัยโควิด-19 โดยเปิดรับบริจาคจากประชาชนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยข้อความระบุว่า "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนา จัดตั้ง "กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด -19 (และโรคระบาดต่างๆ ) เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน "การให้" โดยบริจาคเงินสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา ?บัญชี "กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ )" ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสวนจิตรลดา บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 067-300487-3 โทร 02-447-8585 ถึง 8 ต่อ 109 / 121 / 259 ในวันและเวลาทำการจันทร์ - ศุกร์ ? ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สารจากนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการ ศบค. และย้ำถึงการบริหารจัดการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังคงต้องใช้ระบบบริหารราชการแผ่นดินปกติ ซึ่งนายกฯ ได้บูรณาการการแก้ปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด-19 ผ่านศูนย์ฯ ในทุกมิติ นอกจากนี้นายกฯยังกำกับดูแลอำนวยการปฏิบัติการการจัดทำแผนงานโครงการมาตร การและแผนงานงบประมาณต่างๆ ทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 และงบประมาณกลางที่ได้อนุมัติไปแล้วโดยมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าใจ และวางใจ รวมถึงเชื่อมั่นในระบบที่ได้ทำงานอยู่นี้ ทั้งตัวบุคคล ข้าราชการฝ่ายการเมือง และฝ่ายประจำ "นอกจากนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำว่าประชาชนจะต้องสู้ไปด้วยกัน อย่าเชื่อสื่อโซเชี่ยลบางสำนักที่มุ่งสร้างความแตกแยกในสังคมด้วยกันไปมา จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง การทำงานแก้ปัญหา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนทำให้มีปัญหา แต่ขอให้เชื่อว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว" นอกจากนี้นพ.ทวีศิลป์ กล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงทั่วประเทศแต่อย่างใด เพราะ เพิ่งประกาศเคอร์ฟิวไป 6 ชั่วโมง คือเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ของทุกวัน และทุกคนยังต้องการการปรับตัว ต้องใช้เวลาในการดูแลตัวเอง ถ้าทำได้และตัวเลขการติดเชื้อใหม่ลดลง มาตรการอื่นๆ ไม่ต้องมีเลย แต่ถ้าตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้นจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข แสดงว่ามาตรการที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ ถึงตรงนั้นอาจจะมีการปรับเพิ่ม แต่ ณ วันนี้ยังไม่ได้เป็นการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด ขณะที่ ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่ได้มีการส่งข้อ ความระบุว่า ให้เตรียมพร้อม รัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.63 นั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศใดๆ เป็นเพียง ข่าวปลอม อย่างไรก็ดี รัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมแผนล่วงหน้าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เพื่อรับมือกับ โควิด19 อย่างดีที่สุด ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ว่า การที่กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าฯทุกจังหวัดนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการที่จะประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด แต่เป็นการทำหนังสือแจ้งให้จังหวัด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เตรียม 5 เรื่อง คือ1. เตรียมสถานที่รองรับคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่จะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ที่ทุกจังหวัดจะต้องเตรียมสถานที่ไว้ 2. เตรียมความพร้อมเพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องสร้างความเข้าเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดโควิด-19 ,3. เตรียมพร้อมเรื่องศูนย์อาหาร4. เตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีที่มีการขยายเวลาเคอร์ฟิวเพิ่มขึ้น เพื่อจะได้มีการเตรียมอาหารสำหรับประชาชนให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้งการจัดการเรื่องคมนาคม ขนส่งวัสดุสิ่งของ Supply Chain ต่าง ๆ ด้วย ว่าจะต้องทำอย่างไรในแต่ละพื้นที่ 5. การให้แต่ละจังหวัดรายงานความก้าวหน้า ปัญหาของแต่ละจังหวัดมายังศูนย์โควิด กระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นเรื่องทั้งหมดที่ออกไปคือการเตรียมความพร้อมในแต่ละจังหวัดให้ทุกจังหวัดโดยเฉพาะศูนย์อาหารในแต่ละพื้นที่ว่าต้องเตรียมว่าถ้ามีความจำเป็นถึงขั้นต้องจัดการเรื่องอาหารจะต้องดำเนินการอย่างไร จะจำหน่าย จ่ายแจกจ่ายอย่างไรในภาวะจำเป็นเช่นนี้ ซึ่งประกาศทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม "ไม่ใช่การเตรียมพร้อมในเรื่องของการประกาศขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว เพราะอำนาจในการขยายเวลาเคอร์ฟิวเป็นอำนาจของศูนย์โควิดที่ทำเนียบรัฐบาล จะเป็นผู้พิจารณาสถานการณ์เป็นระยะๆ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมในเรื่องของอุปโภคบริโภคของประชาชนมากกว่า อีกทั้งผมในฐานะที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยปฏิบัติในต่างจังหวัดในทุกพื้นที่ก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ทุกสถานการณ์ และขอย้ำว่าไม่เกี่ยวกับการเตรียมการเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด" ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวเรียกร้องให้นายกฯ ออกคำสั่งตัดเงินเดือน ข้า ราชการการเมืองทั้งหมด เพื่อนำเงินไปใช้แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์ ในขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลาย แต่เสี่ยงที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงถึงเวลาที่ข้าราชการการเมืองทั้งหมดควรเสียสละเพื่อบ้านเมือง และประชาชนด้วยการไม่รับเงินเดือน ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ถือเป็นการคืนภาษี ของประชาชนให้ประชาชนและประเทศชาติ ที่กำลังประสบวิกฤติ วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย หลังทำบุญพรรคครบรอบ 74 ปีว่า พรรคยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ในการทำหน้าที่รับใช้ประชาชน ซึ่งจะเป็นหัว ใจสำคัญในการเดินหน้าของพรรคควบคู่ไปกับการพาพรรคไปสู่ความทันสมัย อย่างไรก็ตามในฐานะที่วันนี้พรรคเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ขอเรียนให้รับทราบว่า พรรคจะทำหน้าที่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเข้มแข็งโดยเฉพาะภารกิจในความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐบาล "ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยของเรายังต้องเผชิญกับภัยทั้งในส่วนของโควิด-19 และภัยเศรษฐกิจที่ดำรงอยู่ในขณะนี้ ก็ขอเรียนให้ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทุกองค์กรและประ ชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อที่จะให้เราจับมือร่วมกันพาประเทศของเราฟันฝ่าภัยพิบัติที่ว่านี้ไปสู่ความสำเร็จต่อไปในอนาคต และขอเป็นกำลังใจให้ กับทุกฝ่ายที่พยายามร่วมมือร่วมใจช่วยกันในขณะนี้"